ไตรมาส 1/64 อสังหาฯท็อปฟอร์มผลประกอบการบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ 35 ราย คว้ารายได้ 6.8 หมื่นล้านบาท ยืนแดนบวกภาพรวมโต 5% กำไรรวมกัน 8.3 พันล้าน โต 30% เอกซเรย์ 8 บริษัท “เอพี-แลนด์ฯ-พฤกษาฯ-แสนสิริ-เฟรเซอร์ส โฮม-ศุภาลัย-เพอร์เฟค” มาถูกทางชูสินค้าแนวราบเป็นพระเอก “ออริจิ้นฯ” ไหวตัวทันเพิ่มพอร์ตบ้านจัดสรรทันเวลา “เสนาฯ” โซลาร์เซลล์-รีเคอริ่งอินคัมพยุงผลประกอบการยุคโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โควิด 3 ระลอกในช่วงปี 2563-ปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สามารถปรับตัวรับมือได้ค่อนข้างเร็วและอยู่ตัว สะท้อนจากผลประกอบการเป็นบวกทั้งรายได้และกำไร
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
35 บริษัทจูงมือกันโต
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก LPN Wisdom-บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด รวบรวมผลประกอบการจากการส่งงบการเงินให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า 35 บริษัทจดทะเบียนมีรายได้รวมกันในไตรมาส 1/64 จำนวน 68,534.53 ล้านบาท มีอัตราเติบโต 5.37% มีผลกำไรรวมกัน 8,367.60 ล้านบาท เติบโต 30.01%
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างไตรมาส 1/63 ซึ่งเป็นยุคก่อนโควิด ระลอก 1 แต่เนื่องจากอสังหาฯต้องเผชิญกับปัจจัยลบจากมาตรการ LTV-loan to value ทำให้มีการตั้งการ์ดสูงมาระดับหนึ่ง
ขณะที่ไตรมาส 1/64 มีแรงกดดันจากสถานการณ์โควิดสมุทรสาคร หรือโควิดระลอก 2 ในช่วงปลายปี 2563 ตามต่อด้วยโควิดเมษายน หรือโควิด ระลอก 3 ท่ามกลางบรรยากาศการทำธุรกิจที่สุมไปด้วยแรงกดดันานัปการ แต่ในที่สุดภาพรวมของผู้ประกอบการรายใหญ่ 35 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ยืนอยู่ในแดนบวกของผลประกอบการทั้งด้านรายได้และผลกำไร (ดูตารางประกอบข่าว)
บ้านจัดสรร “พระเอกยุคโควิด”
โฟกัสผลประกอบการโดดเด่นของกลุ่มท็อป 20 จะเห็นว่าส่วนใหญ่ 80-90% มีพอร์ตโครงการแนวราบจากสินค้าบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์เป็นตัวชูโรง สัดส่วนเกินครึ่งหนึ่งของรายได้บริษัท ไม่ว่าจะเป็นค่ายเอพี (ไทยแลนด์), แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, พฤกษา เรียลเอสเตท, แสนสิริ, เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น, ศุภาลัย, เฟรเซอร์ส โฮม, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, ควอลิตี้ เฮ้าส์ หรือคิวเฮ้าส์, เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง, เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นต้น
โดยไตรมาส 1/64 ผลงานโดดเด่นจนต้องยกให้เป็นไตรมาสของเขาก็คือ เอพี (ไทยแลนด์) สามารถรักษาสถิติการเติบโตของยอดขาย รายได้ และกำไรต่อเนื่องกันหลายไตรมาส โดยมีโครงการบ้านจัดสรรเป็นสินค้าไฮไลต์ ล่าสุดช่วงครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทเพิ่งลอนช์บ้านแนวราบแบรนด์ใหม่ “อภิทาวน์” เจาะลูกค้าตลาดต่างจังหวัดโดยเฉพาะ และเป็มขุมกำลังที่ทำผลงานในไตรมาสแรกปีนี้
ข้อสังเกตเป็นของค่ายออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่โหมการลงทุนไปกับโครงการคอนโดมิเนียมขนานใหญ่ แต่ก็มีการปรับตัวแบบชนิดที่เรียกว่า “มาทันเวลา” ด้วยการเพิ่มพอร์ตพัฒนาโครงการแนวราบในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีการรับรู้รายได้เป็นกอบเป็นกำ และเติบโตแบบก้าวกระโดด ล่าสุดมียอดสะสม ณ สิ้นปี 2563 จำนวน 12 โครงการ มูลค่า 16,129 ล้านบาท ราคา 2.3-25 ล้านบาท
กรณีค่ายเพอร์เฟคที่ออกตัวแรงด้วยการประกาศไม่ลงทุนคอนโดฯแม้แต่โครงการเดียวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ในปี 2564 นี้ และหันไปโฟกัสขยายการลงทุนบ้านแนวราบ มีทั้งบริษัทพัฒนาโครงการเอง และร่วมลงทุนกับกลุ่มฮ่องกงแลนด์ และซูมิโตโม ฟอเรสทรี
รวมทั้งค่ายเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ที่ปรับสมดุลพอร์ตรายได้มาจากรายได้โอนที่อยู่อาศัยกับรายได้ประจำ (รีเคอริ่งอินคัม) ทั้งคอมมิวนิตี้มอลล์และธุรกิจโซลาร์เซลล์ที่ร่วมลงทุนทำโซลาร์ฟาร์มกับกลุ่ม บี.กริม
