ดุสิตธานี เปิดตัว “ทรี ออฟ ไลฟ์” วางแนวทาง ESG ในโรงแรม 19 ประเทศ

ดุสิตธานี มัลดีฟส์
ดุสิตธานี มัลดีฟส์

กลุ่มดุสิตธานี ประกาศเดินหน้าเป้าหมายสู่ความยั่งยืนตามกรอบสหประชาชาติ 2030 เปิดตัวโปรแกรม “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) วางแนวทางสร้างความยั่งยืน 4 ระดับ ภายใต้เกณฑ์พัฒนา 31 ข้อ ครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เริ่มจากโรงแรมและรีสอร์ต 54 แห่งที่กระจายอยู่ใน 19 ประเทศทั่วโลก

วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป้าหมายสำคัญของกลุ่มดุสิตธานี นอกจากจะดำเนินการบน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ สร้างความสมดุล สร้างการเติบโต และการกระจายความเสี่ยงแล้ว กลุ่มดุสิตธานียังมีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

และเป็นความยั่งยืนที่สามารถส่งต่อไปยังทุกภาคส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า สังคม รวมถึงชุมชน ด้วยการก้าวสู่การสร้างความยั่งยืนตามกรอบองค์การสหประชาชาติปี 2030 (United Nations Sustainable Development Goals : UN SDGs 2030)

โดยล่าสุด กลุ่มดุสิตธานี ได้ดำเนินนโยบายด้านความยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) ซึ่งจะครอบคลุมหน่วยงานของกลุ่มดุสิตทั้งหมด เริ่มจากโรงแรมและรีสอร์ตในเครือดุสิตทุกแห่งทั่วโลก รวมถึงโรงแรม 54 แห่งที่เปิดดำเนินงานอยู่ใน 19 ประเทศ ขณะที่หน่วยธุรกิจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการศึกษา กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ จะเข้าร่วมโปรแกรมในเร็ว ๆ นี้

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)

โครงการ Tree of Life  แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ด้วยหลักเกณฑ์ทั้งหมด 31 ข้อ ที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติที่ทางบริษัทได้คัดเลือกไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกธุรกิจของกลุ่มดุสิตธานีมีการดำเนินงานอย่างยั่งยืนครอบคลุมองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

สำหรับโปรแกรมระดับที่หนึ่งซึ่งถือเป็นภาคบังคับ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความรับผิดชอบและแนวทางปฏิบัติสำหรับทุกหน่วยงาน ครอบคลุมเกณฑ์สำคัญ 8 ประการ ได้แก่ การคุ้มครองพืชและสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ การลดขยะจากอาหาร การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มปริมาณการรีไซเคิล

การส่งเสริมการอนุรักษ์และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดลำดับความสำคัญของพนักงานและสวัสดิภาพของลูกค้าผ่านแนวทางปฏิบัติด้านการจัดการความปลอดภัยที่เข้มงวด การต่อต้านการค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศ และร่วมกันทำงานกับผู้นำชุมชนท้องถิ่นอย่างแข็งขันเพื่อสนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ที่สามารถประเมินค่าและวัดผลได้ให้กับชุมชนของกลุ่มดุสิตธานีในวงกว้าง 

ทั้งนี้ โรงแรมและหน่วยธุรกิจของกลุ่มดุสิตธานี จะได้รับใบไม้แห่ง “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ลูกค้าและคู่ค้า รับทราบความสำเร็จของการดำเนินงานความยั่งยืนของแต่ละหน่วยงาน โดยระดับที่ 1 จะต้องผ่านเกณฑ์ภาคบังคับ 8 ข้อ ส่วนระดับที่ 2 คือ ผ่านเกณฑ์ระดับ 1 และผ่านเกณฑ์อีก 18 ข้อ ในขณะที่ระดับ 3 ต้องผ่านระดับ 2 และผ่านเกณฑ์อีก 23 ข้อ และระดับที่ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด จะต้องผ่านระดับ 3 และผ่านเกณฑ์ 28 ข้อ

“การดำเนินโครงการ Tree of Life ของกลุ่มดุสิตธานี ไม่เพียงแต่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงคุณค่าที่หยั่งรากลึกขององค์กร ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการปฏิบัติด้านธรรมาภิบาล เราต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลก และสร้างผลกระทบเชิงบวกและยั่งยืนต่อชุมชนที่เราดำเนินงาน

โครงการนี้ จะช่วยผลักดันให้โรงแรมหรือธุรกิจของเราทำงานอย่างกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม ส่งมอบความเป็นอยู่ที่ดีให้ลูกค้าและพนักงาน รวมถึงสร้างความแตกต่างที่มีคุณค่าให้กับโลก”

โครงการ “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) จะได้รับการดูแลติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติงานตามข้อกำหนด รวมถึงให้คำแนะนำในสิ่งที่ต้องปรับปรุง โดยคณะกรรมการเพื่อความยั่งยืนของกลุ่มดุสิตธานี เพื่อให้โครงการมีความคืบหน้า

นอกจากนี้ คณะกรรมการความยั่งยืนจะกำหนดแผนพัฒนาเชิงรุก ออกนโยบายและขั้นตอนใหม่ ๆ เพื่อให้ โครงการเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับมาตรฐานของโลก รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดใหม่ ๆ

ด้าน มร.จิลส์ เครตัลเลช (Gilles Cretallaz) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มดุสิตธานี กล่าวว่า มั่นใจว่า โครงการ “ทรี ออฟ ไลฟ์” (Tree of Life) จะทำให้โรงแรมและรีสอร์ตของกลุ่มดุสิตธานีเริ่มต้นการเดินทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่หลอมรวมความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินงาน

สัญลักษณ์ “ใบไม้” เป็นเครื่องยืนยันว่าโรงแรมและธุรกิจทุกแห่งจะมุ่งมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างโลกและธรรมชาติ และแขกทุกคนจะได้รับประสบการณ์ยั่งยืนเชิงบวก รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนความยั่งยืนและมั่งคั่งให้กับโลก เพื่อประโยชน์ของคนรุ่นต่อ ๆ ไป

ทั้งนี้กลยุทธ์ของกลุ่มดุสิตธานีสำหรับธุรกิจที่ยั่งยืนนั้น สอดคล้องกับ 4 แกนหลักของการให้บริการแบบดุสิต หรือ Dusit Graciousness ซึ่งประกอบด้วยการบริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Service) การบริการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ (Well-being) การบริการที่เข้าถึง และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนและคนรอบข้าง (Locality) และการบริการที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม (Sustainability) 

The farmer holds rice in hand.

ในปี พ.ศ. 2565 โรงแรมและรีสอร์ตของดุสิตธานี ได้กลายเป็นกลุ่มโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยที่จัดสรรข้าวหอมมะลิออร์แกนิก 100% ให้กับทุกโรงแรมในเครือทั่วราชอาณาจักร ด้วยการซื้อโดยตรงจากฟาร์มขนาดเล็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ให้คุณค่าทางโภชนาการแก่แขก ลูกค้า และพนักงานเท่านั้น แต่ยังสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เริ่มจัดหาไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยสำหรับโรงแรม 6 แห่ง โดยปีนี้กลุ่มดุสิตธานีมีแผนดำเนินโครงการที่ใกล้เคียงกันเพื่อยกระดับการจัดซื้อจัดหาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดตอกย้ำและสะท้อนความมุ่งมั่นของกลุ่มดุสิตธานีในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และส่งต่อความยั่งยืนให้กับชุมชนอย่างแท้จริง