กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนงาน 40% ทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) และจะเพิ่มความเหลื่อมล้ำ เพราะพนักงานที่ไม่เก่งเทคโนโลยีจะมีรายได้ตามหลัง
รายงานนี้ของ IMF เปิดเผยขณะที่ผู้นำทางธุรกิจและนักการเมืองจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่ World Economic Forum 2024 ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Rebuilding Trust” (การสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาใหม่) โดยการประชุมประจำปีนี้มีขึ้นตั้งแต่ 15-19 มกราคม 2567
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“คริสตาลินา จอร์จีวา” หัวหน้ากองทุน IMF เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายในแต่ละประเทศจัดการกับแนวโน้มเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่น่าหนักใจนี้ และดำเนินการเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีเพิ่มความตึงเครียดทางสังคม
“โลกกำลังจะเกิดการปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่เร่งประสิทธิภาพการผลิต ส่งเสริมการเติบโตทั่วโลก และเพิ่มรายได้ทั่วโลก แต่ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยก็สามารถเข้ามาแทนที่คนทำงาน และเพิ่มความเหลื่อมล้ำได้”
IMF ตั้งข้อสังเกตว่า ประมาณ 60% ของงานอาจถูกแทนที่ด้วย AI ในประเทศที่มีรายได้สูง และประมาณครึ่งหนึ่งของตำแหน่งงานในประเทศกลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์จากการบูรณาการ AI เพื่อเพิ่มผลผลิต ขณะที่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอยู่ที่ 40% และในประเทศที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบ 26% ตามลำดับ
ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นว่ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศที่มีรายได้น้อยเผชิญกับการถูกแทนที่งานโดบ AI ในระยะสั้นน้อยกว่าประเทศที่มีรายได้สูง เพราะประเทศเหล่านี้ไม่มีแรงงานที่มีทักษะที่สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้มากพอ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เทคโนโลยีอาจทำให้ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น
IMF ยังตั้งธงว่า AI อาจส่งผลกระทบต่อรายได้และความไม่เท่าเทียมกันด้านความมั่งคั่งภายในประเทศด้วย เพราะคนทำงานที่สามารถเข้าถึง AI และสามารถใช้เป็น จะสามารถเรียกเงินเดือนมากได้ ในขณะที่พนักงานที่ไม่สามารถทำได้ก็จะเป็นผู้ที่มีรายได้ตามหลัง