กรณี นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Korn Chatikavanij” ตั้งค่าสาธารณะ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ระบุว่าได้รับเชิญไปบรรยายในหัวข้อ “การพัฒนาในยุค Digital Age” กับกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ของบริษัทในเครือปตท. โดยตอนหนึ่งของการบรรยาย ระบุว่า ปตท. ส่อขัดกฎหมายจัดตั้งปตท.และรัฐธรรมนูญ กรณีที่ใช้บริษัทลูกของตน คือ GPSC เข้าซื้อหุ้น 69% ในบริษัทผลิตไฟฟ้าเอกชนชื่อ GLOW และขยายสาขากาแฟอเมซอนตามห้างและบนท้องถนนในหัวเมืองทั่วประเทศ แข่งกับชาวบ้านซึ่งไม่มีทางสู้ได้ด้วยว่ากำลังทุนต่างกัน แถมยังมีแผนจะทำโรงแรมด้วย ฉะนั้นในฐานะประธานนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจในสองกรณีดังกล่าว
ล่าสุด นายเทวินทร์ วงศ์วานิช อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ซึ่งเกษียณจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เข้าไปแสดงความเห็นในเฟสบุ๊กของนายกรณ์ รายละเอียดดังนี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ผมเกษียณจากปตท.แล้ว ไม่มีส่วนได้เสียใดๆ ขอให้ข้อเท็จจริงคุณกรณ์ Korn Chatikavanij ตามนี้นะครับ
1) กว่า 90%ของผู้ลงทุน Cafe Amazon คือรายย่อยครับ ไม่ใช่ ปตท.ลงทุน
2) โรงแรมตามปั๊มมีมานานแล้ว แต่ขาดมาตรฐานที่คนเดินทาง เช่น Sales, Auditors จะวางใจได้ ปตท.จึงหาพันธมิตรมาออกแบบและกำหนดมาตรฐานเหมือนที่ทำกันในต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้เดินทาง และจะเป็นการลงทุนโดยผู้ประกอบการรายย่อยเช่นกัน
3) Engie ขาย Glow ให้ GPSC เพราะเขาเปลี่ยนนโยบายมุ่งสู่ Renewables ในขณะที่ธุรกิจก๊าซเริ่มเปิดเสรี และปตท.กับ GPSC ดำเนินธุรกิจในลักษณะ Arm Length เพราะต่างก็เป็นบริษัทมหาชน สัญญาระหว่างกันที่มีนัยยะสำคัญถือเป็น connected transaction ที่ต้องให้ผู้ถือหุ้นอื่นเห็นชอบ ฮั้วกันไม่ได้ครับ
4) ธุรกิจน้ำมันและขายปลีกของปตท. (PTTOR) ไม่มีสิทธิพิเศษจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ แข่งขันกับเอกชนอื่นรวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างชาติบนสนามที่เท่าเทียมกัน และอยู่ระหว่างการนำเข้าจดทะเบียนและกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
5) หน้าที่ National Champion ที่ปตท.ทำอยู่คือ
– สร้างความมั่นคงทางพลังงาน ให้คนไทยมีน้ำมันใช้ทุกแห่งหน ทุกเวลา
– พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ปั๊มให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย ในราคาที่เป็นธรรมสำหรับคนไทย
– ลงทุนและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดหาและจัดส่งก๊าซให้ผู้ใช้อย่างเพียงพอ ในราคาที่เป็นธรรม และมั่นคงในระยะยาว
– สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและรายได้ให้รัฐจากการลงทุนในธุรกิจโรงแยกก๊าซ โรงกลั่น ปิโตรเคมี
– กระจายเศรษฐกิจจากการมีส่วนร่วมของ SME (คู่ค้าและ dealers) และเกษตรกร ชุมชน ที่ปั๊มปตท.
– เป็นแกนนำ brand ไทยในปั๊มปตท. ไปลงทุนใน AEC และกำลังขยายไปนอกภูมิภาค
– ส่งเสริมและผลักดันงานวิจัย นวัตกรรม เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยตั้งรร.กำเนิดวิทย์ สถาบันวิทยสิริเมธี และสนับสนุนตั้ง EECi ที่อ.วังจันทร์
– รณรงค์การดูแลสิ่งแวดล้อม รักษาทรัพยากรธรรมชาติ สร้างเศรษฐกิจชุมชน ผ่านโครงการปลูกป่า 1 ล้านไร่ โครงการ 84 ตำบลวิถีพอเพียง โครงการลูกโลกสีเขียว ป่าในกรุง บางกะเจ้า และโครงการแยกขยะ”
ขณะเดียวกัน นายกรณ์ ก็ได้แสดงความเห็นต่อจากคอมเมนท์ของนายเทวินทร์เช่นกัน “ขอบคุณคุณเทวินทร์ที่กรุณาแสดงความเห็นครับ ผมขอแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม อันดับแรกผมมองว่าในสถานภาพทั่วไปในปัจจุบัน ทุนใหญ่ได้เปรียบและกินพื้นที่เศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงมีหน้าที่ต้องพยายามลดความเสียเปรียบของรายย่อยที่มีโดยธรรมชาติ ดังนั้นการตีความในแต่ละกรณีต้องไม่ลืม ‘ภาพใหญ่’ นี้ และต้องตอบสังคมให้ได้ว่า ‘ตกลงกฎหมายมีไว้ช่วยใคร’ หากเราคิดจะช่วยขาใหญ่เราก็ปล่อยให้มีการตีความไปว่าบริษัทแม่ทำไม่ได้ ก็ให้ตั้งบริษัทลูกไปทำแทน เป็นต้น
แต่ถ้าเราคิดจะช่วยรายเล็กไม่ให้เสียเปรียบเกินไป เราก็ต้องตีความเพื่อให้โอกาสเขาแข่งขันได้จริง ทั้งหมดนี้ด้วยความชื่นชมปตท. และความสำเร็จของปตท. เพียงอยากเห็นปตท. ท้าทายตัวเองมากกว่านี้ครับ
คราวนี้ในประเด็นที่คุณเทวินทร์ชี้แจงมา ผมขอแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม
1. ถึงจะเป็น franchise ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังเป็นประโยชน์ของปตท. (แต่ก็ดีกว่าปตท. ทำเองทั้งหมด)
2. ผมเห็นด้วยว่าปตท. คงบริหารโรงแรม (และกิจการอื่นๆอีกแทบทุกประเภท)ได้ดีกว่าคนอื่นหลายคน แต่ไม่ได้หมายความว่าด้วยเหตุผลนี้ปตท. ควรมีสิทธิ์ทำทุกอย่างเอง
3. เหตุผลที่ Engie ขายหุ้นเป็นเรื่องและสิทธิของเขา (และราคาที่ GPSC เสนอซื้อนั้นหากไม่ขายก็ไม่รู้จะไปขายใครแล้วครับ) แต่หลักการว่าเราไม่ควรให้บริษัทในเครือรัฐวิสาหกิจคืบเข้ามาชิงพื้นที่ของเอกชนยังคงอยู่เหมือนเดิมครับ
4. บางธุรกิจของปตท.อาจไม่มีสิทธิพิเศษโดยตรงจากการเป็นรัฐวิสาหกิจก็จริง แต่ที่มาของความเข้มแข็งของปตท. (ที่ทำให้ทำธุรกิจเหล่านี้ได้) มาจากสิทธิพิเศษการเป็นรัฐวิสาหกิจแน่นอน การกระจายหุ้นภายหลังในตลาดหลักทรัพย์จึงเสมือนเป็นเพียงการโอนความได้เปรียบนี้ไปให้กับเอกชน สรุปสุดท้ายคือผู้ประกอบการรายอื่นไม่ได้เกิดอยู่ดี
5. เห็นด้วยในหน้าที่ National Champion ตามที่ลำดับมาทุกประการครับ แต่อยากจะให้เน้นในเรื่องที่มีผลทางยุทธศาสตร์ของประเทศ มากกว่าที่จะทำในเรื่องที่คนอื่นเขาทำได้อยู่แล้ว”