ปรบมือรัวๆ!! ชาวไทลื้อภูมิใจ “ผ้าฝ้าย” ดังไกลถึง “อิตาลี-ฝรั่งเศส”

ไทลื้อ หรือ ไตลื้อ เป็นชาวไทกลุ่มหนึ่งมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในแคว้น 12 ปันนา มณฑลยูนนานประเทศจีน ไทลื้อมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทางวัฒนธรรม การแต่งกาย ภาษา วรรณกรรม สถาปัตยกรรม ประเพณีและความเชื่อทางศาสนา ศิลปะโดดเด่น ของชาวไทลื้อได้แก่ “ผ้าทอไทลื้อ” 

เนื่องจากชาวไทลื้อส่วนใหญ่อพยพมาจาก 12 ปันนา ประเทศจีน และใช้ชีวิตเรียบง่ายนิยมปลูกฝ้ายเอาไว้ทอเป็นเครื่องนุ่งห่มใช้เอง โดยทั่วไปเป็นเส้นใยธรรมชาติ เมื่อสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลมีเสน่ห์ด้วยความงามที่เรียบง่ายลงตัวให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว ทว่าโปร่งสบายระบายอากาศได้ดีไม่ร้อนเมื่อสวมใส่ ในฤดูร้อนจึงมีผู้นิยมสวมใส่กันเป็นจำนวนมาก

นับเป็นผลงานศิลปหัตถกรรม ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าภูมิปัญญาของชาวไทลื้อ ลวดลายบนผืนผ้าได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เช่น ลายน้ำไหล  ลายช้าง ลายม้า ลายขอ และลายดอกแก้ว เป็นต้น ลวดลายที่เกิดจากความเชื่อถือศรัทธาพระพุทธศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี

การแต่งกายของชาวไทลื้อมีเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นตัวเอง มีการสืบทอดศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องการเย็บปักถักทองานศิลปกรรมต่างๆ ได้มีการพัฒนารูปแบบให้เป็นสากลมากขึ้นแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของไทลื้อ

ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจศึกษาวิถีชีวิตของชาวไทลื้อกันอย่างกว้างขวาง จึงทำให้ชาวไทลื้อได้มีโอกาสเผยแพร่วัฒนธรรมการแต่งกาย และผลิตภัณฑ์อาหารให้กับชาวไทยตลอดจนชาวต่างชาติได้รู้จัก ทำให้มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านศิลปหัตถกรรมต่างๆ และส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของของพวกเขาดีขึ้น

ทีมข่าวประชาชาติธุรกิจ ได้มีโอกาสเดินทางไปยัง “ศูนย์การเรียนรู้การย้อมผ้าและตัดเย็บชุดไทลื้อ” อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา แหล่งศึกษาเรียนรู้เรื่องราวประเพณีวัฒนธรรมการทอผ้า ย้อมสีและปั่นฝ้าย ตามแบบฉบับชาวไทลื้อครบวงจร พร้อมกระจายสินค้าคุณภาพไปยังร้านค้าต่างๆในตัวเมือง ตลอดจนสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาให้กับนักท่องเที่ยว และผู้มาเยี่ยมเยือน

“คุณหยิน” (สยมพร แดงฟู) ผู้ใหญ่บ้าน ได้พาเราไปทำความรู้จักกับ ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มทอผ้าแปรรูปย้อมสีธรรมชาติ บ้านธาตุสบแวน โดยเผยถึง กระบวนการการผลิต และย้อมสีธรรมชาติเบื้องต้น ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลักๆ คือ

1.การดึงเส้นด้ายจากต้นฝ้ายหรือต้นห้อม ที่ปลูกขึ้นริมรั้วให้ออกมาเป็นเส้นยงใหญ่ยาวราวประมาณหนึ่งฟุต 2.นำเส้นด้ายที่ได้มา ไปแช่ไว้ในโอ่งขนาดกลาง เพื่อทำความสะอาด 3.เทสีที่เตรียมไว้ลงโอ่ง และทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนดก็จะได้สีฝ้ายสีสันสวยงาม 4.นำเส้นด้ายที่ย้อมสีแล้วเสร็จ มาเข้าเครื่องทอผ้าฝ้ายที่ถูกสร้างขึ้นด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ขั้นตอนการผลิตนี้ต้องใช้ความประณีตและประสบการณ์เป็นอย่างสูง

ความสวยงามหรือลวยลาย ขึ้นอยู่กับผู้ทอผ้าจะออกแบบดีไซน์ แต่ต้องคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ ชาวไทลื้อ พร้อมกันนี้คุณหยินเล่าต่ออีกว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจดี นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเรื่องของผ้าฝ้ายย้อมสีเป็นจำนวนมากทำให้ผ้าฝ้ายขายดีแทบทุกร้าน บางรายถึงขั้นพากันมาทั้งครอบครัวเพื่อมาเรียนการทอผ้าฝ้ายโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นสินค้าประณีตศิลป์ที่มีความงดงามควรค่าแก่การสะสม ส่วนใหญ่ผู้ที่สนใจเดินทางมาจะเป็นชาวอิตาลี และชาวฝรั่งเศส โดยรายได้ของผ้าฝ้าย เฉลี่ยผืนละไม่ต่ำกว่า 500 – 2,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากในการทอ และลวดลายที่ผลิตค่อนข้างยาก

“อย่าลืมว่ากว่าจะมาเป็นผ้าฝ้ายที่มีลวดลายวิจิตร ทรงคุณค่าได้ ก็ต้องอาศัย หยาดเหงื่อ สองมือ ที่สร้างสรรค์ ให้คนรุ่นหลังตระหนัก และอนุรักษ์กันสืบไป”