“พลาม พรมจำปา” ผู้เคยวิ่งแม่สาย-เบตง มาก่อน จวก “ตูน” อย่าเป็นพระเอกคนเดียว

จากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์โครงการ “ก้าวคนละก้าว” นำโดยร็อกสตาร์มาดเซอร์ “ตูน บอดี้สแลม” และคณะ วิ่งระยะทาง 2,190 กิโลเมตร ภายใน 55 วัน จากอำเภอเบตงสู่เหนือสุดแดนสยาม ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อระดมทุนมอบให้แก่ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ในการซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยกิจกรรมดังกล่าว ตูนและคณะสามารถระดมเงินได้กว่า 1200 ล้านบาทเลยทีเดียว

การออกวิ่งของตูน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ผู้คนใช้ความสนใจจำนวนมาก และสามารถสร้างความสามัคคี สร้างรอยยิ้มและกระตุกให้สังคมฉุกคิดได้หลายประเด็น แม้จะมีเสียงวิจารณ์ก็ตาม

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก Plam Promjumpa หรือ พลาม พรมจำปา อดีตดาบตำรวจที่ปัจจุบัน ผันตัวออกมาเป็นครูฝึกการต่อสู้ และจัดการแข่งขันมวย อีกทั้งยังเป็นผู้ที่วิ่งจากระยะทางแม่สาย-เบตง มาก่อนหนุ่มตูนถึง 2 ครั้ง เป็นการวิ่งเพื่อรณรงค์สร้างสันติภาพ ปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักชาติ และกำลังจะวิ่งระยะ 2000 กิโล อีกครั้ง(แม่สาย-เบตง) เพื่อสันติภาพของภาคใต้ ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คด้วยข้อความดังต่อไปนี้

สังคมอยากรู้จริงๆ อย่าให้สังคมสับสนเข้าใจผิด ตูนจะตอบสังคมว่ากระไรกับคนที่เคยวิ่งมาก่อนเขาถึง 2 คนแบบนี้

1.นายไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร ปี 2529 วิ่ง 60 วัน เบตง-แม่สาย
2.นายพลาม พรมจำปา ปี 2548 วิ่ง 42 วัน แม่สาย-เบตง และ ปี 2558 วิ่ง 52 วัน เบตง-ศิริราศ-หนองคาย-แม่สาย
3.นายอาทิวราห์ คงมาลัย ปี 2560 วิ่ง 55 วัน เบตง-แม่สาย
อย่าเป็นพระเอกคนเดียวสังคมอยากจะรู้มีอะไรอยู่ในใจ ยังมีโอกาสออกตัวแบบพระเอกได้ อย่าชี้นำให้สังคมมองคนอื่นเป็นตัวร้ายเลยครับ มิน่าวันที่เข้าเส้นชัยที่แม่สาย 25 ธ.ค.2560 ผมไปรอแสดงความยินดีด้วย ทีมงานก้าวคนละก้าวจึงมาล็อกตัวขอร้องให้ผมอยู่ห่างๆ ตูนคงไม่ต้องอธิบาย ผมให้เกียรติคนอื่นเสมอแต่คนอื่นก็ควรให้เกียรติผมด้วย..ผมกำลังบอกกับรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวที่เคยเชิญคนเหล่านี้มาออกอากาศมาแล้วได้เชิญทั้ง 3 คนที่บอกว่าเป็นฮีโร่ของคนไทยมาปรากฎตัวพร้อมๆ กัน ตอนแรกผมก็ยังคิดว่าผมเป็นคนแรกเหมือนกันเพราะไม่ทราบมาก่อนเพิ่งทราบภายหลังเอาให้ดีครับ

จากนั้น ได้ออกมาชี้แจงต่อว่า

กระแสก็มีทั้งบวกและก็ลบเป็นธรรมดา ผมว่าสังคมคงต้องมองตัวเองมากขึ้นว่าเหตุใดจึงรับความจริงไม่ได้กลับกลายเปลี่ยนเจตนารมณ์ให้เป็นความอิจฉามาแทนที่ เอาละผมแอดมินเพจไม่มีอะไรแอบแฝงการลุกขึ้นมาทำความดีก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ยิ่งมีคนลุกขึ้นมาทำความดีมากๆเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะดีไม่ใช่เหรอ อย่ามองคนโน้นคนนี้เป็นตัวละครในนิยายที่คุณท่านเข้าใจสิ คนหนึ่งเป็นตัวร้ายอีกคนหนึ่งก็เป็นพระเอกไม่ใช่ละ ผมขอแค่ความจริงให้ปรากฎบนความจริงอย่าบิดเบือนเท่านั้น ถ้าจะดูจากภาพผมวิ่งเฉลิมพระเกียรติเกือบจะทุกครั้งที่เคยวิ่งมานี้คงจะพอตอบเรื่องอยากดังหรืออิจฉาตาร้อนอะไรนี้ได้เป็นอย่างดี #ไม่ต้องมาแนะนำให้ผมไปปรึกษาฝ่ายการตลาด #เพราะผมไม่เคยมีฝ่ายการตลาดอะไรนี้เลยชักครั้งเดียวแค่คำแนะนำมันก็ไม่ใช่ละ #วิ่งเฉลิมพระเกียรติถือว่าสูงสุดในชีวิตแล้วใครจะรับรู้หรือไม่ไม่สำคัญความสำคัญญมันอยู่ที่ใจการวิ่งเฉลิมพระเกียรติไม่ใช่วิ่งอวดดีอย่างที่บางคนเข้าใจ# ผมวิ่งเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.9 ข้ามประเทศมา 3 ครั้งด้วยความเคารพครับ

สำหรับกระแสสังคมนั้น มีผู้คนเข้ามาวิจารณ์อดีตนายดาบตำรวจเป็นจำนวนมาก