คอลัมน์ไซเบอร์ทีน
โดย พี่ศรีหนุ่ย
ใครที่รู้สึกว่า ตัวเองอาจจะมีปัญหา “ติดมือถือ” แล้วอยากลองหาทางแก้ไขดู ด้วยการเช็กเวลาในการใช้งาน คุณพี่จะบอกว่า ตอนนี้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส 12 ของอุปกรณ์แอปเปิลทั้งหลาย มีการตั้งค่า “สกรีนไทม์” เอาไว้เป็นฟีเจอร์ที่จะคอยบอกเราว่า เราใช้ไอโฟน หรือไอแพด ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์เท่าไหร่ แล้วใช้อะไรมากที่สุด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ซึ่งนอกจากจะสามารถดูเวลาของเราเองแล้ว ถ้าเป็นเครื่องของบุตรหลานทั้งหลาย ก็จะสามารถเข้าไปตั้งค่าบล็อกแอพพ์ หรือจำกัดการใช้งานเครื่องก็ได้
ตอนนี้ ในแต่ละสัปดาห์ เครื่องไอโฟนของคุณพี่ ก็จะคอยแจ้งเตือนว่า คุณพี่นั้น ใช้งานไอโฟนไปในมากน้อยแค่ไหน มากขึ้น หรือลดลงก็จริงๆ มันก็ไม่ได้ดูว่าจะอะไรมาก เพียงแต่ว่า มันก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนครูผู้ปกครอง ที่คอยเตือนเรา แต่ไม่ได้ดุเรา เท่านั้นเอง
พูดเรื่องเวลาในการใช้มือถือ ก็บังเอิญให้ไปเจอบทความเกี่ยวกับผลการศึกษาเรื่องความเกี่ยวข้องกันระหว่างการเล่นมือถือหรือแท็บเล็ตของเด็กๆ กับเวลานอนของเด็ก เป็นผลการศึกษาของสถาบันอินเตอร์เน็ต ออกซ์ฟอร์ด ที่อ้างอิงข้อมูลของสุขภาพเด็กๆ ในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016 โดยการสอบถามจากผู้ปกครอง ก็พบว่า
ระยะเวลาในการเล่นมือถือของเด็ก หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ นั้น แทบจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ “เวลา” ในการนอนของเด็กเลย
อย่างเช่น เด็กวัยรุ่นที่ใช้เวลาในการเล่นมือถือในแต่ละวันไม่มากนัก จะนอนกันวันละประมาณ 8 ชั่วโมง 51 นาที ส่วนวัยรุ่นที่ใช้เวลาในการเล่นมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มากถึง 8 ชม./วัน จะนอนวันละ 8 ชั่วโมง 21 นาที ต่างกันเพียงแค่ 30 นาที หรือครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ผลการศึกษาพบว่า ทุกๆ 1 ชม.ของการอยู่กับหน้าจอทั้งหลาย จะทำให้เรานอนน้อยลงราว 3-8 นาทีเท่านั้น
แม้จะมีผลกระทบน้อยนิดในเรื่องเวลานอน หากแต่มูลนิธิการนอนแห่งชาติ ของสหรัฐ ก็ออกมาเตือนว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือไม่ควรจะให้ลูกหลานเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน เนื่องจากแสงสีฟ้าที่ออกมาจากหน้าจออาจจะทำให้ชะลอการปล่อยสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารที่จะถูกหลั่งออกมาทำให้เรารู้สึกง่วง
อันนี้สิ ปัญหาใหญ่ที่แท้จริง เพราะหากสารเมลาโทนินไม่ถูกหลั่งออกมา เราก็จะนอนไม่หลับ พอนอนไม่หลับ เราก็จะพักผ่อนไม่เพียงพอ
อย่าว่าแต่เด็กเลย พวกผู้ใหญ่ที่เล่นมือถือกันก่อนนอน หรือตื่นมาเช้าๆ ก็เปิดมือถือดูแล้ว ก็ได้รับผลกระทบเหล่านี้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น ก็ย้อนกลับไปที่เรื่องแรก หมั่นคอยเช็กเวลาการใช้มือถือ เพื่อสุขภาพของเรากันเถอะ …นะ พี่ขอร้อง