วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี

คอนเฟิร์ม! แผ่นน้ำแข็งขนาดมหึมา หนักกว่า 1 ล้านล้านตัน แตกออกจากทวีปแอนตาร์กติกาแล้ว

ภาพจากเฟซบุ๊ก Nasa Earth

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ภาพจากดาวเทียมหลายภาพยืนยันแล้วว่า หนึ่งในแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีขนาดเท่ากับ 1 ใน 4 ของเวลส์ หรือมีขนาดใหญ่เป็นสี่เท่าของลอนดอน ได้แตกออกจากทวีปแอนตาร์กติกาแล้ว

โดยแผ่นน้ำแข็งขนาดมหึมานี้กำลังแตกออกจากหิ้งน้ำแข็งลาร์เซน ซี (Larsen C) โดยมีขนาดใหญ่ถึง 5,800 ตารางกิโลเมตร หนักกว่า 1 ล้านล้านตัน

โดยดาวเทียมของนาซาที่มีกล้องถ่ายภาพความร้อนได้จับภาพที่แสดงให้เห็นถึงรอยแตกนี้ที่เริ่มก่อตัวมาหลายปี ได้แตกออกจากหิ้งน้ำแข็งลาร์เซน ซี อย่างสมบูรณ์แล้ว จากนั้นก็ได้รับการยืนยันจากอีกหลายคนที่ใช้เทคโนโลบีการถ่ายภาพขั้นสูง

อย่างไรก็ตาม แผ่นน้ำแข็งดังกล่าวยังไม่ได้ลอยออกมาจากตำแหน่งที่มันอยู่แต่อย่างใด ซึ่งอาจเป็นเพราะมันยังมีส่วนฐานที่อยู่ใต้น้ำ หรืออาจเป็นเพราะกระแสน้ำทะเลและกระแสลม

โดยเว็บไซต์ Project Midas ที่มีนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับทวีปแอนตาร์กติกา ระบุความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งว่า “แผ่นน้ำแข็งหนัก 1 ล้านล้านตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีการบันทึกมา ได้แยกตัวออกจากหิ้งน้ำแข็งลาร์เซน ซี ในแอนตาร์กติกาแล้ว โดยการแยกตัวครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 10-12 ก.ค. 2017”

ทั้งนี้ ถึงแม้แผ่นน้ำแข็งดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่มาก แต่ก็มีขนาดเพียงราวๆ ครึ่งหนึ่งของหนึ่งในแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดที่เคยบันทึก ซึ่งมีขนาดถึง 11,000 ตารางกิโลเมตร และแยกออกจากหิ้งน้ำแข็งรอสส์ในปี 2000

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการแตกออกของแผ่นน้ำแข็งดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำทะเลของโลก ตราบที่มันยังลอยอยู่ในน้ำ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วมันอาจจะมีผลกระทบอย่างมาก เพราะอาจไปเร่งให้ธารน้ำแข็งไหลจากบนบกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น

“การแจกออกของแผ่นน้ำแข็งนี้ทำให้หิ้งน้ำแข็งลาร์เซน ซี มีพื้นที่หายไปมากกว่า 12% และลักษณะของทวีปแอนตาร์กติกาก็มีหน้าตาเปลี่ยนไปตลอดกาล” นักวิทยาศาสตร์ระบุ

ด้านนักวิจัยจากสวอนซีกล่าวว่า ถึงแม้ว่าหิ้งน้ำแข็งลาร์เซน ซี จะสามารถงอกออกมาตามธรรมชาติได้อีก แต่ส่วนที่งอกออกมาใหม่ก็น่าจะเสถียรน้อยกว่าของเดิม และอาจจะแตกออกง่ายขึ้น

“ขณะที่แผ่นน้ำแข็งที่แตกออกมาก็อาจจะอยู่ในตำแหน่งเดิมของมัน เพราะแผ่นน้ำแข็งที่แตกออกมาบางแผ่นก็สามารถอยู่ในที่เดิมของมันได้ราว 20 ปี หรืออาจะลอยออกมาตามกระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งอาจจะลอยมาเป็นแผ่นใหญ่ หรืออาจจะแตกออกเป็นแผ่นเล็กๆ หลายแผ่นก็ได้ ซึ่งเราจะคอยติดตามตรวจสอบทั้งหิ้งน้ำแข็งลาร์เซน ซี และแผ่นน้ำแข็งที่แตกออกมานี้ต่อไป”