เจริญ วังอนานนท์ เร่งคิกออฟ “ทัวร์ไทยเที่ยวนอก”

เจริญ วังอานนท์-TTAA
เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA)
สัมภาษณ์

หลังจากทั่วโลกกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง ทุกประเทศต่างหันมาแข่งขันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกันอย่างหนัก โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติสำหรับปี 2565 จำนวน 7-10 ล้านคน

ขณะที่คนไทยจำนวนหนึ่งก็เริ่มทยอยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเช่นกัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทนำเที่ยว หรือ Tour Operator เริ่มกลับมาคึกคักหลังจากที่ธุรกิจหยุดชะงักไปกว่า 2 ปี

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้ร่วมสัมภาษณ์ “เจริญ วังอนานนท์” นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) สมาคมทัวร์เอาต์บาวนด์ หรือตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศ ถึงแนวทางการทำการตลาดสำหรับนักท่องเที่ยวขาออก หรือตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศ (outbound) ไว้ดังนี้

“ทัวร์เอาต์บาวนด์” พร้อมแล้ว

“เจริญ” บอกว่าขณะนี้ตลาดเอาต์บาวนด์ หรือคนไทยเที่ยวต่างประเทศของประเทศไทยมีความพร้อมแล้ว ทั้งกรุ๊ปเดินทางขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และทั้งเดินทางเอง รวมถึงการเดินทางเพื่อธุรกิจ หรือประชุมสัมมนาสำหรับองค์กร บริษัทต่าง ๆ

ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของไทยเปิดประเทศ และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ยกเว้นญี่ปุ่น จีน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2565 นี้

โดยล่าสุดเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2565 สมาคมได้จัดกิจกรรม TTAA Fam Trip Malaysia พร้อมนำบริษัททัวร์ที่เป็นสมาชิกไปสำรวจสินค้า บริการ รวมถึงความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว
ต่างชาติของมาเลเซีย

นับเป็นการเดินทางแบบ “กรุ๊ป” ขนาดใหญ่ครั้งแรกของตลาดเอาต์บาวนด์ของไทย และเป็นทริปดูงานครั้งแรกของสมาคมหลังจากที่ทั่วโลกล็อกดาวน์จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อต้นปี 2563

โฟกัสตลาด “อาเซียน-เอเชีย”

“เจริญ” บอกด้วยว่า ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดประเทศและการกลับมาทำตลาดกันอีกครั้งของผู้ประกอบการ นอกจากตลาดมาเลเซียแล้ว ทางสมาคมยังมีแผนนำสมาชิกไปอัพเดตสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวให้ตลาดอื่น ๆ ตามลำดับด้วย

โดยปีนี้จะเน้นส่งเสริมการตลาดระยะสั้นเป็นหลักคือ ภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น และภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน จีน เป็นต้น เนื่องจากตลาดระยะใกล้สามารถควบคุมต้นทุนการเดินทาง ดูแลเรื่องความปลอดภัย และความเสี่ยงของลูกทัวร์ได้ง่าย

ที่สำคัญ ทุกประเทศสามารถแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกันได้ง่าย การเดินทางที่สะดวก ตัดสินใจง่าย ใช้เวลาวางแผนสั้น และเพิ่มความถี่ได้ง่าย

เน้นแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว

“เจริญ” บอกด้วยว่า ภูมิภาคอาเซียนมีประชากรรวมกว่า 600 ล้านคน ถ้าทุกประเทศสามารถแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกันในอาเซียนได้ อาเซียนจะมีพลังมหาศาล

โดยหลักการทำการตลาดเอาต์บาวนด์ของสมาคมนับจากนี้เป็นต้นไป จะโฟกัสทำการตลาดในรูปแบบการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศมากขึ้น โดยผนึกกำลังกับสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) ซึ่งทำตลาดอินบาวนด์ หรือนักท่องเที่ยวขาเข้า

“เวลาเราออกไปทำตลาดเพื่อส่งออกนักท่องเที่ยวไทยออกไป เราก็จะเจรจาเรื่องของนักท่องเที่ยวขาเข้าด้วย เช่นเดียวกับกรณีที่ประเทศคู่ค้าเขามาเจรจาเพื่อส่งนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย เขาก็อยากรู้ว่าเราจะส่งออกนักท่องเที่ยวคนไทยไปให้เขาอย่างไร”

พร้อมย้ำว่า การทำตลาดท่องเที่ยวที่ดีต้องทำควบคู่กันทั้ง 2 ขาคือ ทั้งตลาดเอาต์บาวนด์ หรือนักท่องเที่ยวขาออก และตลาดอินบาวนด์ หรือนักท่องเที่ยวขาเข้า

กลุ่มกลาง-ล่างกำลังซื้อหด

นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) บอกด้วยว่า ประเด็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับตลาดเอาต์บาวนด์ปีนี้คือ กำลังซื้อของคนไทยที่หายไปบางส่วน เนื่องจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งค่าครองชีพ ต้นทุนพลังงาน ราคาสินค้า ฯลฯ ที่ปรับสูงขึ้น

รวมถึงค่าเงินบาทและอัตราแลกเปลี่ยน และราคาบัตรโดยสารเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแทบทั้งสิ้น

“ตอนนี้กลุ่มที่มีกำลังซื้อและพร้อมที่จะไปเที่ยวต่างประเทศมีจำนวนน้อยลง โดยเฉพาะคนในกลุ่มระดับกลาง-ล่าง ที่หายไปในสัดส่วนที่สูงมาก”

และให้ข้อมูลอีกว่า ปัจจุบันต้นทุนการเดินทางในทุกตลาดเพิ่มขึ้นราว 30-40% เนื่องจาก 4 ปัจจัยหลักคือ 1.ราคาบัตรโดยสารที่สูงขึ้นทุกเส้นทาง 2.ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการดำเนินธุรกิจยังสูงต่อเนื่อง 3.สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก และ 4.ค่าใช้จ่ายในประเทศปลายทางที่ปรับตัวสูงขึ้น

ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนทำให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวต้องระมัดระวังและมีโนว์ฮาวการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพด้วย

หนุนผู้ประกอบการอยู่รอด

อย่างไรก็ตาม สมาคม TTAA ในฐานะที่หน่วยงานส่งเสริมตลาดเอาต์บาวนด์ได้ตั้งรับและพยายามทุกรูปแบบเพื่อให้ผู้ประกอบการกลับมาดำเนินธุรกิจและเดินต่อไปได้ โดยนอกจากช่วยสนับสนุนด้านการตลาดแล้ว สมาคมจะยังคงช่วยดูแลและสนับสนุนสมาชิกในด้านต่าง ๆ

อาทิ เงินกู้ซอฟต์โลน ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ไปอีก 2-3 ปี สนับสนุนด้านองค์ความรู้ เทรนนิ่ง อัพเดตโปรดักต์โนว์ฮาว รวมถึงมองหาโอกาสใหม่ ๆ ด้วย

“ผมพร้อมที่จะใช้ประสบการณ์และคอนเน็กชั่นที่มีมาช่วยเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอดกันได้มากที่สุด”

พร้อมทิ้งท้ายว่า เดิมทีเดียวคาดการณ์ว่าสถานการณ์ของตลาดเอาต์บานวด์จะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง แต่จนถึงขณะนี้ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดต่อเนื่อง ทุกอย่างจึงยังคาดการณ์ไม่ได้

ตลาดรวม (ยัง) คาดการณ์ยาก

สำหรับภาพรวมหรือทิศทางของตลาดเอาต์บานวด์สำหรับปีนี้นั้น “เจริญ” บอกว่า ในภาพรวมยังคาดการณ์ยากมาก เนื่องจากทุกอย่างอยู่ในช่วงเริ่มต้น ขณะที่เกาหลี, ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดหลักของตลาดเอาต์บานวด์ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดเต็มที่เมื่อไหร่

ขณะที่ตลาดเวียดนาม ลาว มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีสินค้าด้านการท่องเที่ยวใหม่มากขึ้น เช่นเดียวกับมาเลเซียซึ่งเป็นตลาดใหญ่ก็พบว่ารัฐบาลเขาเริ่มโปรโมตโปรดักต์ใหม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ส่วนตลาดระยะไกลแม้ว่าจะเปิดประเทศเป็นโซนแรก ๆ แต่บางประเทศก็ยังมีปัญหาเรื่องความสะดวก เช่น ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์ ที่มีปัญหาเรื่องขั้นตอนการขอวีซ่าที่ค่อนข้างใช้เวลานาน ทำให้ไม่สามารถทำตลาดในกลุ่มที่เป็นกรุ๊ปทัวร์ได้ตามเป้าหมาย

ดังนั้น ตลาดหลักของตลาดเอาต์บานวด์ หรือคนไทยเที่ยวต่างประเทศสำหรับปีนี้จะยังคงเป็นประเทศในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย