ชี้ “แรงงาน-เศรษฐกิจ” 2 ปัจจัยเสี่ยงโรงแรมปี’66

พนักงานโรงแรม

สมาคมโรงแรมเผยการฟื้นตัวยังกระจุกตัว ชี้ “ซาอุดีอาระเบีย-อาเซียน” ตลาดใหม่ดันอุตฯท่องเที่ยวโต คาดปี’66 นักท่องเที่ยวต่างชาติถึงเป้า 20 ล้าน ยันปัญหาแรงงานขาดแคลน-เศรษฐกิจถดถอยยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง กลุ่มโรงแรมหรู 5 ดาวรอด ส่วนรายเล็ก 2-3 ดาวเหนื่อยหนักแน่ แจงปรับขึ้นค่าไฟดันต้นทุนพุ่งอีก 20%

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมยังมีความไม่เท่าเทียมในการฟื้นตัว เกิดช่องว่างในการฟื้นตัวและมีการเติบโตไม่เท่ากัน โดยโรงแรมบางแห่งเริ่มกลับมามีผลกำไรจากการประกอบการแล้ว ขณะที่บางโรงแรมอาจจะยังไม่กำไร เช่นเดียวกับโรงแรมบางรายยังประสบกับภาวะหนี้สิน

โดยข้อมูลของอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่าอยู่ในอัตรา 59% ส่วนช่วงปลายปี 2565 นี้ บางโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่ราว 60-70% แล้ว

ทั้งนี้ คาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 40-50% เนื่องจากในช่วงต้นปี 2565 ยังมีสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และเพิ่งเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าพักมากขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565

ปี’66 ตลาดใหม่ดันการฟื้นตัว

นางมาริสายังกล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 ด้วยว่า ยังมีโอกาสให้ฟื้นตัวได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ เริ่มเห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวจากตลาดการท่องเที่ยวใหม่ เดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น เช่น นักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ซึ่งเดินทางโดยใช้เครื่องบินมากขึ้น

ขณะที่ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกยังคงเดินทางเข้าประเทศไทยไม่มากนัก เนื่องจากรัฐบาลแต่ละประเทศผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขช้ากว่าประเทศอื่น แต่เชื่อว่าหากประเทศจีนผ่อนคลายมาตรการเข้าออกพรมแดนจะช่วยเสริมให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีมากขึ้นไปอีก

มาริสา สุโกศล หนุนภักดี
มาริสา สุโกศล หนุนภักดี

“หากยังรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ได้ คาดว่าในปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยอาจสูงถึง 20 ล้านคนตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ตั้งเป้าหมายไว้” นางมาริสากล่าว

ยอดจองห้องพักช่วงปีใหม่พุ่ง

สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 นี้ นางมาริสากล่าวว่า โรงแรมที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยามีอัตราการเข้าพักดีสวนทางกับโรงแรมในเขตตัวเมืองชั้นในที่จับกลุ่มนักธุรกิจ ธุรกิจไมซ์ (MICE) อาจมีอัตราการเข้าพักลดลงเล็กน้อย ซึ่งภาพรวมประเมินว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 จะมีปริมาณการเข้าพักดีกว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

“ปีใหม่นี้โรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก รวมถึงภาคใต้มีอัตราการเข้าพักดีขึ้นมาก แต่โรงแรมในกรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพักลดลงเล็กน้อย เชื่อว่าคาดว่าหลังปีใหม่จะดีขึ้น ทั้งนี้ ยังมีปัญหาเศรษฐกิจ กำลังซื้อที่ต้องจับตา” นางมาริสากล่าว

“แรงงาน-เศรษฐกิจ” 2 ปัจจัยเสี่ยง

นางมาริสากล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 นี้ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของกลุ่มธุรกิจโรงแรมยังมีคงเป็นปัญหาขาดแคลนแรงงานต่อไป โดยผู้ประกอบการ
ต้องเตรียมการพัฒนาทักษะแรงงานกลุ่มแรงงานฝีมือ (skilled labour) ให้พร้อมรับกับวิถีการทำงานแบบใหม่ เช่น มีทักษะความเป็นผู้นำมากขึ้น นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ขณะที่แรงงานไม่มีฝีมือ (unskilled labour) เริ่มเห็นการจ้างแรงงานต่างชาติบ้างแล้ว

“โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ เช่น อุดรธานี ขอนแก่น และโรงแรมขนาดใหญ่ อาจประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานน้อยกว่าโรงแรมขนาด 2-3 ดาว” นางมาริสากล่าว

นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยก็ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโรงแรมเช่นกัน แต่จะกระทบกับโรงแรมขนาด 2-4 ดาวเป็นหลัก เนื่องจากโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มอื่น

ทั้งนี้ คาดว่าในปีหน้าโรงแรมระดับลักเซอรี่หลายแห่งอาจมีรายได้สูงกว่าระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562

ขณะที่การเปิดประเทศของจีนยังถือเป็นปัจจัยสำคัญ โดยหากนักท่องเที่ยวจีนยังไม่เดินทางเข้าประเทศไทย โรงแรมบางส่วนที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับตลาดจีนโดยเฉพาะอาจได้รับผลกระทบ แต่ล่าสุดพบว่าโรงแรมหลายแห่งได้เริ่มปรับตัวไปตามสถานการณ์บ้างแล้ว

ขึ้นค่าไฟดันต้นทุนเพิ่ม 20%

นางมาริสากล่าวต่อไปอีกว่า ภาคการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หากธุรกิจการท่องเที่ยวสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น จะช่วยสร้างการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจในห่วงโซ่อุปทาน เกิดการจ้างงานในระบบ แต่หากมีต้นทุนหรือภาระเพิ่มขึ้นในช่วงที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 จะยิ่งส่งผลกระทบไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

“เรากำลังฟื้นกำลังตั้งตัวที่จะชำระหนี้ ถ้ารัฐบาลปรับขึ้นค่าไฟ ต้นทุนเราก็เพิ่มอีกราว 20% คาดว่าเราคงลำบาก สัดส่วนกำไรก็ลดลง ที่สำคัญเรายังมีภาระเรื่องการคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้แก่ธนาคารด้วย” นางมาริสากล่าว