แนวรบ “แอร์ไลน์” ระอุ รับ ICAO ปลดธงแดงปลายปี

หลังจากที่ประเทศไทยถูกองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ปักธงแดงหน้าชื่อประเทศไทย มาตั้งแต่กลางปี 2558 ขณะนี้ใกล้เวลาที่ไทยจะถูกปลดธงแดงแล้ว

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. คาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้ ทาง ICAO น่าจะเข้ามาตรวจสอบ ICVM (ICAO Coordinated Validtion Mission) เพื่อปลดธงแดง ตามที่ กพท.ได้ยื่นขอไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา

โดยภายในเดือนสิงหาคมนี้ กพท.จะสามารถออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ หรือ AOC Recertification ได้ทั้งหมด 10 สาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายการบินหลักๆ แทบทั้งสิ้น

ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จ่อบินยุโรป

“ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์” ซีอีโอ สายการบินไทยแอร์เอเชีย และกรรมการ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เล่าว่า ในปี 2561 นี้ “ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์” เตรียมขยายฝูงบินและรับมอบเพิ่มเครื่องบินอีก 4-5 ลำ ขึ้นอยู่กับว่า กพท.จะปลดธงแดงได้เมื่อไหร่

หากปลายปีนี้ไทยปลดธงแดงสำเร็จในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าจะเปิดเส้นทางบินไป “ญี่ปุ่น” และ “เกาหลีใต้” โดยเส้นทางแรกน่าจะเป็นเส้นทางกรุงเทพฯ-ซัปโปโร ซึ่งเคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้

จากนั้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า มีแผนจะเปิดให้บริการเส้นทางใหม่บินตรงแบบประจำสู่ยุโรป โดยมุ่งเจาะแถบยุโรปตะวันออก ซึ่งตั้งเป้าเปิดตัวทีเดียวพร้อมกันหลาย ๆ เมือง ซึ่งจากการศึกษาในเบื้องต้นอาจเป็นเส้นทางโปแลนด์-ภูเก็ต และรัสเซีย-อู่ตะเภา ไม่จำเป็นต้องบินเข้ากรุงเทพฯ (ดอนเมือง) เพียงอย่างเดียว

“ไทยแอร์เอเชีย” บุกหนักอินเดีย

ด้านแผนงานของไทยแอร์เอเชียนั้น “ธรรศพลฐ์” บอกว่า ได้วางกลยุทธ์ขยายเส้นทางบินใหม่สู่อินเดียเพิ่ม หลังจากเปิดตัว 2 เส้นทางในปลายเดือนกันยายนนี้ คือ กรุงเทพฯ-ชัยปุระ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และกรุงเทพฯ-ติรุจิรัปปัลลิ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์และหาก กพท.ดำเนินภารกิจปลดธงแดงสำเร็จ “ไทยแอร์เอเชีย” มีแผนไปเจรจาเรื่องสิทธิการบินกับหน่วยงานการบินพลเรือนฝั่งอินเดีย เพื่อเปิดเส้นทางบินเพิ่ม โดยเฉพาะเมืองใหญ่ อาทิ นิวเดลี บังคาลอร์ เป็นต้น

“อินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เราตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเส้นทางอินเดียจากปัจจุบันมี 3% ของรายได้ทั้งหมดเป็น 15% ใน 3 ปีข้างหน้า และเป็น 20% ในระยะยาว”

อีกทั้งยังเป็นการช่วยบาลานซ์ความเสี่ยงจากตลาดเส้นทางจีน ซึ่งปัจจุบันครองสัดส่วนสูงถึง 30% ของรายได้ทั้งหมด จากเส้นทางบินปัจจุบันสู่ 14 เมืองในประเทศจีน โดยในอนาคตจะทำให้มีสัดส่วนรายได้จากตลาดจีนและอินเดียอย่างละ 20% เท่ากัน

นอกจากนี้ในปี 2561 นี้ ไทยแอร์เอเชียมีแผนเพิ่มความถี่เที่ยวบิน และเปิดเส้นทางไปเมืองใหม่ในจีนด้วยเช่นกัน


ไลอ้อนแอร์เล็งบินญี่ปุ่น-เกาหลี

“อัศวิน ยังกีรติวร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการแข่งขันของสายการบินในประเทศไทยยังไม่ดุเดือดมากนัก เพราะติดปัญหาเรื่อง ICAO ซึ่งทาง กพท.อยู่ระหว่างการปลดธงแดง และคาดว่าน่าจะสำเร็จในเดือนตุลาคมนี้ และทันทีที่แก้ปัญหานี้ได้ ทุกอย่างจะกลับมาแข่งขันกันเหมือนเดิมโดยเฉพาะการแข่งขันเปิดเส้นทางบินและทำตลาดกันอย่างเต็มที่ โดยไทยไลอ้อนแอร์เองก็เตรียมเปิดให้บริการเส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ญี่ปุ่น 3 จุดบิน ได้แก่ ฟุกุโอกะ โตเกียว (นาริตะ) และโอซากา (คันไซ) รวมถึงเกาหลีใต้ (อินชอน) และฮ่องกง ในปีหน้า

และในเดือนกันยายนนี้จะเปิดบินกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-บาหลี (เดนปาซาร์) วันละ 1 เที่ยวบิน จากนั้นในเดือนตุลาคมจะเปิดเส้นทางบินสู่ไต้หวันและอินเดีย โดยให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-ไทเป วันละ 1 เที่ยวบิน ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-มุมไบ และกรุงเทพฯ-โคชิ ความถี่ 3-5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ส่วนปี 2561 นั้นได้วางเป้าหมายผลักดันให้สนามบินอู่ตะเภา เป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ปฏิบัติการบินอีกแห่งของไทยไลอ้อนแอร์ โดยวางแผนรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 และ 737-900 มาประจำการที่ฮับอู่ตะเภา 5-10 ลำ เพื่อนำไปบินเส้นทางใหม่สู่เมืองต่าง ๆ ในประเทศจีน

จากปัจจุบันที่ให้บริการสู่เมืองจีนแล้ว 8 เส้นทางบิน ทั้งจากฐานบินที่ดอนเมือง เชียงใหม่ และเชียงราย

ไทยสมายล์เพิ่มความถี่จีน-อินเดีย

สำหรับสายการบินไทยสมายล์นั้น ก่อนหน้านี้ “วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บอกว่า ได้เตรียมเปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-เกาสง (ไต้หวัน) เริ่มบิน 1 ตุลาคมนี้ ที่ความถี่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเตรียมเปิดไปจุดบินใหม่ในประเทศจีนอีก 2 เมืองในเดือนธันวาคมนี้

ส่วนตลาดอินเดียนั้นจะเพิ่มความถี่เส้นทางบินไปชัยปุระ จาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และลัคเนา จาก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยจะเริ่ม 29 ตุลาคมนี้

นอกจากนี้ยังเพิ่มความถี่เส้นทางบินที่มีอยู่แล้วในประเทศจีนด้วย อาทิ ฉงชิ่ง จาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ฉางซา จาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์,ฯลฯ ตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้เพื่อต้อนรับวันชาติของจีน

“นิวเจน” ปูพรมเอเชียตะวันออก

ขณะที่ “เจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์” ซีอีโอสายการบินนิวเจน บอกว่า กพท.กำลังเตรียมมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ให้กับสายการบินนิวเจน ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ICAO กำหนด

และหลังจากได้ใบ AOC ใหม่แล้ว “นิวเจน” มีแผนเพิ่มเส้นทางการบินครอบคลุมเอเชียตะวันออก โดยจะเริ่มเจาะตลาด “เมียนมา” เป็นแห่งแรก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีแผนเปิดให้บริการเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำในช้วงต้นปีหน้า โดยคาดว่าจะเริ่มบุกไปที่ตลาดซาอุดีอาระเบีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน รวมถึงประเทศอินเดียด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นแผนงานเชิงรุกของบรรดาผู้ประกอบการสายการบินในประเทศไทยที่เตรียมไว้รองรับหากประเทศไทยได้รับการปลด “ธงแดง” ในปลายปีนี้ และแน่นอนว่าการแข่งขันของธุรกิจสายการบินจะยิ่งดุเดือดยิ่งขึ้นแน่นอน…