กองทัพอวกาศสหรัฐ สั่งระงับการใช้ Generative A.I. ทั้งแชตบอต และอื่น ๆ บนเว็บไซต์ หวั่นเกิดผลกระทบด้านความมั่นคงของข้อมูล ค้านคำสั่ง “เพนตากอน” เร่งให้ทุกเหล่าทัพหาวิธีใช้เอไอ
วันที่ 16 ตุลาคม 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า กองทัพอวกาศสหรัฐอเมริกา (US Space Force) ได้สั่งห้ามการใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์เชิงกำเนิด หรือ Generative AI บนเว็บชั่วคราว โดยอ้างถึงความปลอดภัยของข้อมูลและข้อกังวลอื่น ๆ
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- เงื่อนไข ธอส. จัดเงินฝากออมทรัพย์ “เก็บออม” ดอกเบี้ยสูง 1.95%
กองทัพอวกาศ ได้ลงบันทึกเมื่อวันที่ 29 กันยายน ซึ่งส่งถึงกำลังพล (Guardian Workforce) Space Force ให้หยุดการใช้ข้อมูลของรัฐบาล บนอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ AI ที่สร้างบนเว็บ ซึ่งสามารถสร้างข้อความ รูปภาพ หรือสื่ออื่น ๆ ได้จากข้อความ โดยการใช้งานเกี่ยวกับ AI ทั้งหมด “ไม่ได้รับอนุญาต” ให้ใช้ในระบบของรัฐบาล เว้นแต่จะได้รับอนุมัติเป็นการเฉพาะ
Chatbots และเครื่องมือ เช่น ChatGPT ของ OpenAI ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทำให้ใช้แบบจำลองภาษาที่ฝึกฝนมากับข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อคาดเดาและสร้างข้อความใหม่ ทำให้มีเครื่องมือ AI รุ่นใหม่ที่สามารถค้นหาข้อความจากในเอกสารมหาศาลมาก ดึงรายละเอียดที่สำคัญออกมา และนำเสนอเป็นรายงานที่สอดคล้องกันในรูปแบบทางภาษาที่หลากหลาย
นางสาวลิซ่า คอสตา หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมของ Space Force ระบุในบันทึกข้อความของกองทัพว่า Generative AI จะปฏิวัติพนักงานอย่างไม่ต้องสงสัย และเพิ่มความสามารถขอกำลังพลให้ทำงานอย่างรวดเร็ว
“แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ การจัดการข้อมูล และข้อกำหนดการจัดซื้อการนำ AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่มาใช้นั้นจำเป็นต้องสร้างการรับผิดชอบ การใช้เอไอบนระบบรัฐบาลมีความเสี่ยงที่ภายใต้เงื่อนไขบางประการ ด้วยข้อมูลมีจำนวนมากและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ โดยเฉพาะข้อมูลและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการป้อนโมเดลเอไอด้วยเอกสาร อาจจบลงด้วยการรั่วไหลออกสู่สาธารณะหรือถูกแฮก”
บันทึกข้อความดังกล่าวระบุว่า นางสาวคอสตา วางแผนที่จะเผยแพร่แนวทางใหม่ภายใน 30 วัน
นายนิโคลัส ชายเลียน อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ซอฟต์แวร์คนแรกของกองทัพอากาศและกองทัพอวกาศ และผู้ก่อตั้งบริษัท Ask Sageเพื่อมอบแพลตฟอร์ม AI ที่สร้างความปลอดภัย ซึ่งทำงานร่วมกับโมเดล LLM หลายรุ่น รวมถึงจาก Microsoft Corp. และ Google ของ Alphabet Inc. ให้กับกองทัพ วิพากษ์วิจารณ์ว่า การตัดสินใจหยุดการใช้ generative AI ของกองทัพอวกาศ นั้นดูขัดกับการที่ “เพนตากอน” สั่งให้เร่งการนำ AI มาใช้ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
“เพนตากอนได้เปิดตัวคณะทำงานเฉพาะกิจ AI เพื่อตรวจสอบกรณีการใช้งานสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ และวิธีการวิเคราะห์และบูรณาการทั่วทั้งกระทรวงกลาโหม”
ในขณะเดียวกัน หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ หรือ CIA ได้พัฒนาเครื่องมือ Generative AI ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อใช้อย่างแพร่หลายในชุมชนข่าวกรอง นายชายเลียนกล่าวว่า แพลตฟอร์มของเขามีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลแล้ว
นอกจากลูกค้าทั่วทั้งฐานอุตสาหกรรมด้านกลาโหมแล้ว นายชายเลียนยังกล่าวอีกว่า ลูกค้ามากกว่า 10,000 รายในส่วนที่เหลือของกระทรวงกลาโหม และ 6,500 ราย ในกองทัพอากาศ ยังคงใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทเขา กำลังพลในกระทรวงกลาโหมบางรายถึงกับจ่ายค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์ต่อเดือนจากกระเป๋าของตนเอง เพื่อใช้ซอฟต์แวร์ช่วยแบ่งเบาภาระในการเขียนรายงาน
นายทิม กอร์แมน โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวกับ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า หน่วยงานด้านกลาโหมได้รับอนุญาตให้อนุญาตให้ใช้ ซอฟต์แวร์ของ Ask Sage ประมวลผล จัดเก็บ และส่งข้อมูลที่ไม่เป็นความลับที่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ชั่วคราว
นอกจากนี้ Ask Sage ยังกำลังขออนุมัติจากกระทรวงกลาโหมให้ทำงานกับข้อมูลที่ได้รับการควบคุมซึ่งไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้
นายชายเลียนได้ลาออกจากตำแหน่งในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายซอฟต์แวร์คนแรกในกระทรวงกลาโหมในปี 2021 โดยวิพากษ์วิจารณ์เพนตากอนเรื่องการนำ AI มาใช้อย่างล่าช้า ๆ และกล่าวว่า สหรัฐ เสี่ยงที่จะตามหลังจีน
