“โบอิ้ง” เปลี่ยนซีอีโอและผู้บริหารระดับสูงยกแผง เซ่นวิกฤต “737 Max”

เดฟ คาฮูน โบอิ้ง
เดฟ คาฮูน/ แฟ้มภาพ (ภาพโดย Jim WATSON / AFP)

“โบอิ้ง” เปลี่ยนซีอีโอและผู้บริหารระดับสูงยกแผง เซ่นวิกฤตความความปลอดภัยของเครื่องบินตระกูล “737 Max” ที่ตรวจพบปัญหาในกระบวนการผลิตอื้อ หลังเกิดเหตุแผงประตูฉุกเฉินหลุดกลางอากาศ 

วันที่ 25 มีนาคม 2024 สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า บริษัทโบอิ้ง (Boeing Co.) ประกาศการเปลี่ยนผู้บริหารครั้งใหญ่ เซ่นวิกฤตการสูญเสียความเชื่อมั่น ซึ่งมีใจกลางของวิกฤตอยู่ที่ปัญหาความปลอดภัยของเครื่องบินไอพ่นตระกูล “737 Max” ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท 

โบอิ้งกล่าวในแถลงการณ์ว่า เดฟ คาลฮูน (Dave Calhoun) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท โบอิ้ง จะออกจากบริษัทในสิ้นปี 2024 นี้ ขณะที่ประธาน แลร์รี เคลล์เนอร์ (Larry Kellner) ก็จะออกจากตำแหน่งและจะไม่ลงสมัครเพื่อรับเลือกเป็นผู้บริหารอีก ส่วนตำแหน่งของเขาจะถูกแทนที่โดย สตีฟ มอลเลนคอปฟ์ (Steve Mollenkopf) อดีตซีอีโอควอลคอมม์ (Qualcomm) ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทโบอิ้งมาตั้งแต่ปี 2020 

ด้าน สแตน ดีล (Stan Deal) รองประธานบริหารบริษัท โบอิ้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แผนกเครื่องบินพาณิชย์ของโบอิ้งจะลงจากตำแหน่งทันที และตำแหน่งของเขาจะถูกแทนที่โดย สเตฟานี โพป (Stephanie Pope) ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) 

คาลฮูน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของโบอิ้งมายาวนานและเป็นซีอีโอมาตั้งแต่ปี 2020 กำลังจะสิ้นสุดเวลาการทำงานของเขากับโบอิ้งในฐานะซีอีโอที่ต้องรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตที่เกี่ยวกับเครื่องบิน 737 Max ซึ่งเป็นเครื่องบินตระกูลที่ขายดีที่สุดของโบอิ้ง 

การเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารของโบอิ้งครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่พอใจของลูกค้าจำนวนมากขึ้นที่มีต่อคาลฮูนและดีล ในเรื่องคุณภาพการผลิตและความปลอดภัยของโบอิ้ง หลังจากที่แผงประตูฉุกเฉินของเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ที่ทำการบินโดยสายการบินอลาสกาแอร์ไลน์ (Alaska Airlines) หลุดกลางอากาศ ในวันที่ 5 มกราคม 2024 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา  (FAA) กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ว่า การตรวจสอบโบอิ้งและซัพพลายเออร์อย่างครอบคลุมโดย FAA ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยของโบอิ้ง  

คาลฮูนกล่าวในวันเดียวกันนี้ว่า “สายตาของโลกจับจ้องมาที่เรา และผมรู้ว่าเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปพร้อมกับการเป็นบริษัทที่ดีขึ้น”

ในจดหมายที่ส่งถึงพนักงานโบอิ้งก่อนหน้านี้ คาลฮูนกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดกับเครื่องบินของอลาสกาแอร์ไลน์เป็น “จุดพลิกผัน” สำหรับโบอิ้ง และบริษัทต้องตอบสนองด้วย “ความอ่อนน้อมถ่อมตนและความโปร่งใสโดยสมบูรณ์” 

เขากล่าวว่า เดิมทีเขาตกลงที่จะเป็นซีอีโอ “เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ในขณะนั้น” 

ทั้งนี้ เครื่องบินตระกูลโบอิ้ง 737 Max เคยถูกระงับการบินทั่วโลกเป็นเวลานานหลังจากเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกสองครั้งในเวลาใกล้ ๆ กันในปี 2019 ซึ่งนำไปสู่การปลดซีอีโอ เดนนิส มุยเลนเบิร์ก (Dennis Muilenburg) ในปลายปีนั้น 

จากนั้น เดฟ คาลฮูน ขึ้นเป็นซีอีโอโบอิ้งในปี 2020 และได้นำเครื่องบิน 737 Max กลับมาให้บริการเชิงพาณิชย์อีกครั้งในปีนั้น พร้อมกับเดินหน้าฟื้นความเชื่อมั่นขึ้นมาใหม่ แต่ก็เกิดเหตุที่นำมาซึ่งวิกฤตอีกครั้งในปีนี้