แฉ เครดิตสวิส แหล่งพักเงินผิดกฎหมาย

เครดิตสวิสข้อมูลรั่ว
REUTERS/Arnd Wiegmann

เดอะการ์เดียนเปิดโปงข้อมูลรั่วไหลจากธนาคารเครดิตสวิส แฉบริการเก็บเงินผิดกฎหมาย ในไทยมีคนเป็นลูกค้ามากกว่า 1,000 บัญชี

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 มติชนรายงานข้อมูลจากเดอะการ์เดียนเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ระบุว่า จากข้อมูลที่รั่วไหลครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในโลกของธนาคารเอกชนรายใหญ่อย่าง “เครดิตสวิส” เผยให้เห็นว่ามีลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการซ่อนเร้นความมั่งคั่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทรมาน การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน การทุจริต และอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ

ข้อมูลที่รั่วไหลดังกล่าว เป็นรายละเอียดของบัญชีที่เชื่อมโยงกับลูกค้าเครดิตสวิสประมาณ 30,000 รายทั่วโลก ซึ่งเก็บเงินในธนาคารเครดิตสวิส หนึ่งในสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ รวม 100,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือราว 3.5 ล้านล้านบาท

การรั่วไหลของข้อมูลครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลววของเครดิตสวิสที่เคยให้คำมั่นหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายทศวรรษ ว่าจะขจัดลูกค้าที่มีพิรุธ และกองทุนผิดกฎหมายที่นำเงินผิดกฎหมายมาฝากไว้กับธนาคาร

ในจำนวนนี้มีทั้งบัญชีนักค้ามนุษย์ในฟิลิปปินส์, กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกงที่ถูกจำคุกข้อหารับสินบน มหาเศรษฐีผู้ต้องคดีฆาตกรรมแฟนสาว, ผู้บริหารบริษัทน้ำมันเวเนซุเอลาที่ทุจริตเงินมูลค่ามหาศาล รวมถึงนักการเมืองทุจริตจากอียิปต์และยูเครน

นอกจากนี้ ยังมีบัญชีของสำนักวาติกันที่มีบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนผิดกฎหมายในกรุงลอนดอนของอังกฤษ

Advertisment

ข้อมูลลูกค้าของธนาคารจำนวนมากรั่วไหลไปถึงมือหนังสือพิมพ์ “ซูดดอยท์เชอ ไซตุง” ในเยอรมนี ซึ่งรายงานคำพูดของแหล่งข่าวที่ว่า “ตนเชื่อว่ากฎหมายปกป้องข้อมูลลูกค้าธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์นั้นไม่ถูกต้อง

แหล่งข่าวระบุว่า ตนมองว่ากฎหมายปกป้องข้อมูลลูกค้าธนาคารในสวิสเซอร์แลนด์นั้นเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม ทั้งยังบอกด้วยว่า ข้ออ้างในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวทางการเงินเป็นเพียงสิ่งที่ปกปิดบทบาทที่น่าอับอายของธนาคารสวิส ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดในการหลบเลี่ยงภาษี

Advertisment

ขณะที่เครดิตสวิสกล่าวว่า ด้วยข้อจำกัดของกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนตัวของธนาคาร ทำให้ธนาคารไม่สามารถให้ความเห็นใดเกี่ยวกับกระแสข่าวข้อมูลรั่วไหลครั้งนี้ได้

“เครดิตสวิสยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหาและการลงความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่อ้างว่าเป็นของธนาคาร” พร้อมโต้แย้งว่าสิ่งที่สื่อรายงานมีพื้นฐานมาจาก “ข้อมูลที่มีการคัดเลือกซึ่งไม่อยู่ในบริบท ส่งผลให้เกิดการตีความเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของธนาคาร”

เกี่ยวกับไทยอย่างไร

จากข้อมูลระบุว่า ประเทศที่มีลูกค้ามากที่สุด คือ เวเนซุเอลา อียิปต์ ยูเครน และไทย โดยรายงานระบุว่ ประเทศเหล่านี้ต้องเจอปัญหามากมายเมื่อบรรดานักการเมืองและเศรษฐีที่นำเงินไปซุกซ่อนนอกประเทศ โดยในประเทศไทยนั้นมีคนเป็นลูกค้าธนาคารเครดิตสวิสมากถึงกว่า 1,000 บัญชี

รายงานยกตัวอย่างลูกค้ารายหนึ่งของเครดิตสวิส ที่ปรากฏชื่อในข้อมูลหลุดดังกล่าวคือ “สเตฟาน เซเดอร์ฮอล์ม” ช่างคอมพิวเตอร์ ที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตข้อหาค้ามนุษย์ในฟิลิปปินส์ จากการเปิดเครือข่ายเว็บแคมโชว์ลามกอนาจาร พร้อมกับผู้หญิงในเครือข่ายถึง 17 คน โดยเซเดอร์ฮอล์มเปิดบัญชีกับธนาคารเครดิตสวิสเอาไว้ และยังสามารถใช้งานบัญชีได้เป็นเวลาถึง 2 ปีครึ่งหลังการตัดสินคดี

ตัวแทนของเซเดอร์ฮอล์มเผยว่า เครดิตสวิสไม่เคยระงับบัญชีและไม่ได้ปิดบัญชีของเขา กระทั่งถึงปี 2556 เมื่อเดอะการ์เดียนถามว่า เหตุใดเซเดอร์ฮอล์มต้องมีบัญชีของเครดิตสวิส ได้รับคำตอบว่าเมื่อตอนที่เขาอยู่ประเทศไทยได้เปิดบัญชีนี้ ดังนั้นช่วยบอกได้ไหม “ถ้าเป็นคุณต้องการฝากเงิน จะเปิดบัญชีกับธนาคารไทยหรือธนาคารสวิส”