รู้จัก สตรีหมายเลขหนึ่งฝรั่งเศส รั้งตำแหน่งสมัย 2 รักหวานต่างวัยไม่จาง

สตรีหมายเลขหนึ่งฝรั่งเศส

นอกจาก เอ็มมานูเอล มาครง จะสร้างประวัติชนะศึกเลือกตั้งเป็นผู้นำสองสมัยได้ในรอบ 20 ปี สตรีคู่ชีวิต บริจิตต์ มาครง ก็ยังจะดำรงตำแหน่ง สตรีหมายเลขหนึ่งฝรั่งเศส สองสมัยด้วยเช่นกัน

บริจิตต์ มาครง วัย 69 ปี ฉลองชัยเคียงข้างสามี วัย 44 ปี ด้วยชุดสูทและกางเกงสีน้ำเงินเข้มสไตล์ทหาร เข้ากับสูทสีน้ำเงินและเสื้อเชิ้ตขาวของคุณผู้ชาย โดยชุดของคุณผู้หญิงตกแต่งด้วยกระดุมหลอกและปกคอสูง สีเงิน ประดับต่างหูสวยหรู สวมรองเท้าส้นสูง

สตรีหมายเลขหนึ่งฝรั่งเศส
TOPSHOT – คู่รักมาครงขึ้นเวทีฉลองชัยชนะ (Photo by Ludovic MARIN / AFP)

บริจิตต์กล่าวกับประชาชนที่มาฉลองชัยว่า ตื้นตันใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และว่า  “ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่สวยที่สุดในโลก แต่ปัญหาคือเรามักมองไม่ออก”

สตรีหมายเลขหนึ่งยังกล่าวถึงประเด็นที่ผู้คนคาดหวังจากรัฐบาลด้วยว่า  “เราต่างต้องการให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลง ดิฉันรู้ว่าพวกเราทำได้ และรู้ว่าพวกเราพิเศษสุด”

“ดิฉันอยู่กับสามีมาตลอดวาระการทำงาน 5 ปี และรู้ว่าเขาจะเดินหน้าไปทางใด ดิฉันเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างยิ่ง” บริจิตต์กล่าวก่อนกอดนายมาครงด้วยท่าทีที่เปี่ยมด้วยความรักและปลาบปลื้ม

สตรีหมายเลขหนึ่งฝรั่งเศส
แสดงออกว่าหวานตลอดๆ . (Photo by Ludovic MARIN / AFP)

แฟชั่นฝรั่งเศสเข้มข้น

ในฐานะสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำแฟชั่นโลก บริจิตต์ มาครง ไม่ขาดตกบกพร่องในการแสดงออกเรื่องนี้ เธอมีเสื้อผ้าสไตล์มินิมอลซึ่งถือเป็นมาตรฐานความงามแบบฝรั่งเศสชิก รองเท้าส่วนใหญ่ของเธอใช้แบรนด์หลุยส์ วิตตอง และยังถือว่านีโกลาส์ เฌสกีแยร์ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งด้วย

นอกจากรองเท้าบูตหุ้มข้อแล้ว ยังมักจะสวมรองเท้าส้นสูงหัวแหลมและรองเท้ากีฬาสีสันเก๋ไก๋

บริจิตต์มักสวมรองเท้าส้นสูง (Photo by GONZALO FUENTES / POOL / AFP)

ส่วนเสื้อที่มักใส่เป็นประจำ คือ เสื้อเบลเซอร์ ชุดเดรสและชุดสูทกับกางเกง รวมทั้งกางเกงยีนเข้ารูปและกางเกงขายาวโทนสีกลาง

ในโอกาสที่เป็นทางการ จะสวมชุดเดรสดูสง่าและชุดยาว แต่งเครื่องประดับมินิมอล ส่วนใหญ่ใช้แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส เช่น Alaïa, Alexandre Vauthier และ Dior 

French President Emmanuel Macron and his wife Brigitte Macron  Photo by Ludovic MARIN / AFP)

ตำนานรักต่างวัย

ถ้าพูดถึงชีวิตส่วนตัวของผู้นำฝรั่งเศสแล้ว ย่อมต้องมีประเด็นรักที่ลงตัวของทั้งสอง แม้ว่าอายุจะห่างกันถึง 25 ปี อีกทั้งฝ่ายหญิงยังเคยเป็นครูของผู้นำหนุ่มมาก่อน

เอ็กซ์เพรส รายงานว่า นางบริจิตต์เคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร ELLE ฝรั่งเศส เมื่อปี 2560 ว่าเคยผ่านช่วงเวลาคลั่งรักมาก่อน

ทั้งสองพบกันที่โรงเรียนเฟรนช์ แคธอลิก ในเมืองอาเมียง ระหว่างร่วมทำงานละครเวทีกันหลายเดือนเรื่อง “The Art Of Comedy” ซึ่งแต่งโดยเอ็ดดูอาร์โด เดอ ฟิลิปโป นักประพันธ์ชาวอิตาลี

มาครงเมื่อครั้งร่วมแสดงละคร

อดีตครูสอนการแสดงเปิดใจว่าระหว่างทำเวิร์กช็อปกัน เราเขียนบทละครด้วยกันทุกคืนวันศุกร์ และเมื่อถึงวันเสาร์ ฉันก็แทบจะรอให้ถึงวันศุกร์อีกไม่ไหว ความสัมพันธ์ของเราเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความเท่าเทียมกันทางศิลปะ ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ดูเหมือนตัวเองขาดสติไปแล้ว

ทั้งคู่เขียนบทละครด้วยกันจนถึงดึกดื่นคืนวันศุกร์ แต่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเดินทางไปที่บ้าน โดยมาครงอยู่กับพ่อแม่ซึ่งเป็นแพทย์ทั้งคู่ในเมืองอาเมียง ส่วนบริจิตต์อยู่กับสามีและลูก ๆ ในบ้านใกล้ ๆ กับบ้านมาครง

หลักฐานหนึ่งที่เป็นพยานได้ว่าทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน คือ ภาพที่บันทึกได้ระหว่างเล่นละคร เผยให้เห็นว่ามาครงและบริจิตต์จุมพิตที่แก้มกันระหว่างม่านปิดฉากลง

ชอตแห่งความทรงจำ

บริจิตต์เปิดใจว่าเธอและมาครงหลงใหลการละครเหมือนกัน แต่มาครงไม่เคยเรียนในชั้นเรียนของเธอ ใครก็ตามที่อ้างว่าเธอเคยอ่านบทกวีและการบ้านของมาครงเป็นเรื่องเหลวไหล

บริจิตต์กล่าวว่าความผิดเดียวของเอ็มมานูเอลคืออายุอ่อนกว่า อย่างไรก็ตาม “เราจะไม่ยอมเสียเวลาสักนาทีเดียวมาคิดกังวลเรื่องอายุที่ต่างกัน”

หลังจากที่มีข่าวลือสะพัดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ระหว่างเธอกับมาครง บริจิตต์จึงส่งเสริมให้นักเรียนชายวัย 16 ปี ใส่ใจเรื่องการเรียน และเป็นคนหนึ่งที่ย้ำกับมาครงว่าให้ไปเรียนต่อที่ปารีส เพราะตอนนั้นไม่มีอะไรกันจริง ๆ แต่เสียงซุบซิบดังสะพัดไปทั่ว

สิ่งเดียวที่บริจิตต์เป็นห่วง คือ ลูก ๆ ทั้ง 3 คน เซบาสเตียน ลอเรนซ์ และทิเฟน โดยไม่สนเสียงนินทาว่าร้าย

ทั้ง 2 คนแต่งงานกันในปี 2550 ก่อนที่มาครงจะเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสถึง 10 ปี