ครบรอบความสัมพันธ์ไทย-เมียนมา 70 ปี สองผู้นำร่วมยินดีเป็น “เพื่อนบ้าน-หุ้นส่วนยุทธศาสตร์”

REUTERS/Jorge Silva

แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ในปีนี้เป็นปีเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “นับว่าเป็นเกียรติที่จะแสดงความยินดีและนำความปรารถนาดีมายังท่านและผ่านท่านไปยังประชาชนเมียนมา”

ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์อันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างไทยกับเมียนมาที่เด่นชัดที่สุด ก็คือ การเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มีความเข้าใจ และการมีเป้าหมายร่วมกัน ตลอดจนมิตรภาพที่ยาวนานระหว่างประชาชนของสองประเทศ และด้วยรากฐานของความร่วมมือและไมตรีจิตระหว่างกันนี้ทำให้ประเทศของเราทั้งสองสามารถผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ ร่วมกันและพัฒนาไปด้วยกันสู่การเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ” ที่มีความเชื่อมโยงหยั่งรากลึกในทุกสาขา รวมทั้งมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้าง ความเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและภูมิภาคของเราอย่างแท้จริง

เพื่อฉลองโอกาสที่สำคัญนี้ ผมถือเป็นเกียรติที่จะยืนหยัดในเจตนารมณ์ของรัฐบาลแห่งไทยที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเมียนมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนา ความเจริญก้าวหน้า และความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสอง รวมทั้งอาเซียนและภูมิภาคของเรา จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อรัฐบาลเมียนมาและประชาชนที่ให้ความไว้วางใจและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และใกล้ชิดยิ่งกับราชอาณาจักรไทย

ขณะเดียวกัน นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กล่าวสุนทรพจน์ถึงรัฐบาลไทยว่า เมียนมากับไทยไม่ใช่เป็นเพียงเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่มีพรมแดนร่วมกันเป็นระยะทางยาวและมีความคล้ายคลึงกันทางวัฒนธรรม หากแต่ยังเป็นเพื่อนสมาชิกในครอบครัวอาเซียนที่มีเป้าหมายร่วมกัน ตลอด 70 ปีที่ผ่านมาด้วย เมียนมากับไทยมีความสัมพันธ์ฉันมิตรบนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ พร้อมทั้งร่วมมือกันในหลายสาขาอันนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมถึงการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างผู้นำทำให้ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันถูกพัฒนาไปสู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมียนมากับไทยมีความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาคต่างๆ เพื่อมุ่งสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้กับภูมิภาค รวมทั้งช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเวลาที่ต้องการ

ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า สายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศทั้งสองจะเจริญงอกงามต่อไปในอนาคต