กทม. ผนึก ตร.นครบาล กางแผนปี’66 แก้ 266 จุดรถติดหนัก

กทม. ผนึก ตร.นครบาล กางแผนแก้ไขปัญหาจราจรทั่วกรุง เน้นกวดขันวินัยจราจรควบคู่การใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการ

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมแนวทางความร่วมมือด้านการบริหารจัดการจราจร ครั้งที่ 1/2565 โดยมี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุม

ในที่ประชุมได้กล่าวถึงแนวทางความร่วมมือในการกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งกรุงเทพมหานครได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการกรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2566

โดยได้ดำเนินการทบทวนให้มีความสอดคล้องกับแนวทางของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและทิศทางของแผนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดไว้เป็น 7 ยุทธศาสตร์ สำหรับยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในด้านเดินทางดี ปลอดภัยดี และบริหารจัดการดี อยู่ในยุทธศาสตร์ที่ 4 การเชื่อมโยงเมืองที่มีความคล่องตัวและระบบบริการสาธารณะแบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของระบบจราจร ซึ่งจะต้องมีการบูรณาการในการบริหารจัดการร่วมกันทั้งหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทาง ลดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้วยระบบเทคโนโลยี

จากนั้นในที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางความร่วมมือในการกวดขันวินัยจราจร ในปี 2566 กรุงเทพมหานครจะมุ่งเน้นดำเนินงานด้านการจราจร 2 ส่วน ได้แก่

ส่วนที่ 1 การลดปัญหาการจราจรติดขัด และการเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ประกอบด้วย

1.การตรวจจับความเร็ว

2.การหยุดชะลอรถตรงทางข้าม

3.การจอดในที่ห้ามจอด/การจอดขวางทางเท้า

4.การไม่เคารพสัญญาณไฟ และเครื่องหมายจราจร

5.การขับขี่สวนทาง การขับขี่บนทางเท้า การขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด และ

6. มาตรการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งส่วนหนึ่งของปัญหาจราจร ทั้งจุดรถติดและจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ มักเกิดจากการขาดวินัยจราจรของประชาชน ทั้งการจอดรถริมถนน และบนทางเดินเท้า การไม่หยุดในบริเวณทางข้าม การข้ามถนนในบริเวณที่ไม่ใช่ทางข้าม และการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการผลักดันเรื่องการกวดขันวินัยจราจร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่อไป

จากการสำรวจจุดที่มีปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานคร และมีการประชุมร่วมระหว่างสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และสถานีตำรวจท้องที่ทั้ง 88 แห่ง และทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการประชุมพบว่า มีจุดที่มีปัญหาจราจรติดขัด จำนวน 266 จุด โดยวิธีการแก้ไขแบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ การแก้ไขด้วยหลักการทางวิศวกรรมจราจร และการกวดขันวินัยจราจร เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงเรื่องวินัยจราจร โดยกรุงเทพมหานครจะประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จัดกิจกรรม D-Day กวดขันวินัยจราจรพร้อมกันทั่วกรุงเทพมหานคร

แนวทางการใช้เทคโนโลยีแก้ไขปัญหาจราจร Traffic Management เทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการจราจร ระบบเพื่อตรวจวัดความเร็ว ระบบเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนบริเวณสัญญาณไฟจราจร ทางคนเดินข้ามชนิดปุ่มกด ระบบตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรและเครื่องหมายจราจรบริเวณทางแยกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อป้องปรามให้เกิดวินัยด้านการจราจร ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย ลดการเกิดอุบัติเหตุรวมถึงเกิดความปลอดภัยกับประชาชน พร้อมเชื่อมโยงสัญญาณการวิเคราะห์ข้อมูลไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร ในการสนับสนุนข้อมูลผู้ฝ่าฝืนซึ่งสามารถนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายต่อไป เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน เพิ่มความปลอดภัย ตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ บนท้องถนน และสนับสนุนหน่วยงานความมั่นคงต่าง ๆ

ส่วนที่ 2 การบริหารจัดการจราจรด้วยระบบ ITMS (Intelligent Traffic Management System) ซึ่งถนนในกรุงเทพมหานคร เป็นโครงข่ายที่เชื่อมโยงกันหมด การบริหารจัดการจราจรจึงต้องทำร่วมกันทั้งระบบ เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

1.การควบคุมสัญญาณไฟจราจรทั้งกรุงเทพมหานคร ให้สอดคล้องกับสภาพจราจรที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจร และระบบบริหารรถขนส่งสาธารณะ

2.การเผยแพร่สภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มข้อมูลในการตัดสินใจให้กับประชาชน

3.การกวดขันวินัยจราจรด้วยระบบกล้อง CCTV อาทิ การจับภาพยานพาหนะที่ทำผิดกฎจราจร เพื่อนำไปออกใบสั่งอัตโนมัติหรือเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การจับ/ปรับผู้กระทำผิดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้พิจารณาเกี่ยวกับการจัดการจราจรและการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงงานกาชาด ประจำปี2565 ณ บริเวณสวนลุมพินี ระหว่างวันที่ 8-18 ธันวาคม 2565 การกำหนดจุดจอดรถประชาชนที่มาเที่ยวงานในสวนลุมพินีและอาคารใกล้เคียง จุดบริการเรียกรถแท็กซี่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ถนนพระราม 4 ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ เพื่อให้รถเคลื่อนตัวได้ตลอดเวลา ไม่ให้มีรถติดสะสม กวดขันไม่ให้จอดรถในที่ห้ามจอด ตลอดจนดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนในช่วงงานดังกล่าว