ESG ในมุมมอง “มอนเดลีซฯ”

มอนเดลีซฯ
CSR Talk

ต้องยอมรับว่าการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (environmental, social, governance-ESG) เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนค่านิยมในการดำเนินงานของบริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายขนมและของว่างแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ ลูกอมฮอลล์, หมากฝรั่งเดนทีน, คุกกี้โอรีโอ, แคร็กเกอร์ริทส์, ช็อกโกแลตแคดเบอรี ฯลฯ มาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นหลักสำคัญของการวางกลยุทธ์ และเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ

ด้วยการจัดลำดับโดยเลือกชุมชนที่จะได้รับผลกระทบเชิงบวกอย่างกว้างขวางที่สุดก่อน การพัฒนาโซลูชั่นแห่งนวัตกรรมเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานที่สามารถประเมินผลได้ และความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั่วอุตสาหกรรม

กล่าวกันว่า ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องดังกล่าวของมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล นำไปสู่ผลลัพธ์ในการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมครั้งสำคัญ เช่น โครงการเพื่อยกระดับกระบวนการจัดหาอย่างยั่งยืน การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และปริมาณขยะอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการสร้างการเชื่อมต่อที่มีความหมายมากขึ้นกับผู้บริโภค

รายงานนโยบายด้านความรับผิดชอบสังคมประจำปี พ.ศ. 2563 (Snacking Made Right 2020 Report) ได้รวมความคืบหน้าในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค ดังนี้

วัตถุดิบที่ยั่งยืน

– 68% ของปริมาณโกโก้ มาจากโครงการโกโก้ ไลฟ์ (Cocoa Life) ของบริษัท ซึ่งเป็นโครงการจัดซื้อโกโก้ที่ส่งเสริมความยั่งยืน โดยให้ความช่วยเหลือชุมชนในแหล่งปลูกโกโก้ ทั้งด้านการเกษตรยั่งยืน การส่งเสริมอาชีพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชน

– 98% ของน้ำมันปาล์มมีที่มาจากซัพพลายเออร์ที่มีแนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องแผนปฏิบัติการน้ำมันปาล์มประจำปี พ.ศ. 2563 (2020 Palm Oil Action Plan) ของมอนเดลีซฯ

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

– สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากขั้นตอนการผลิตกว่า 20% ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15%

– สามารถลดการใช้น้ำในพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำกว่า 30% ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10%

– สามารถลดปริมาณขยะจากขั้นตอนการผลิตกว่า 30% ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20%

นวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์

– 94% ของบรรจุภัณฑ์ถูกออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้

การส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (Well-being)

– 16% ของรายได้เป็นผลิตภัณฑ์ขนมและของว่างที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีการควบคุมปริมาณการบริโภคต่อหน่วย

– พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น การผสมวิตามินซีในลูกอม Halls Vita-C, การลดปริมาณน้ำตาล โซเดียม และไขมันในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เค้ก Solite ในเวียดนาม คุกกี้ Chipsmore ในมาเลเซีย รวมทั้งการเพิ่มไฟเบอร์และแคลเซียมในแครกเกอร์ AFC ในเวียดนาม

การสนับสนุนชุมชน

– ก่อตั้งโครงการ Sustainable Futures เพื่อขยายผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวแก่ผู้คนและโลก ผ่านการลงทุนและความร่วมมือทางสังคมใหม่ ๆ

– มอบเงินจำนวนกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 994 ล้านบาท) ในโครงการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก รวมทั้งการช่วยเหลือด้านโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 6 ประเทศ รวมเป็นเงินกว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 83 ล้านบาท)

เร่งสนับสนุนความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (Diversity, Equity & Inclusion)

– ในปี พ.ศ. 2563 บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ประกาศความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยการสนับสนุนเงินทุนมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (หรือประมาณ 33,140 ล้านบาท) แก่ธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงและเป็นสมาชิกของชนกลุ่มน้อย พร้อมแต่งตั้งผู้อำนวยการบริหารฝ่าย diversity & inclusion คนแรกขององค์กร เพื่อดูแล รับผิดชอบด้านการยอมรับความหลากหลายและความแตกต่าง

“เดิร์ก แวน เดอ พุท” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า เป้าหมาย “snacking made right” ในการดำเนินธุรกิจขนมและของว่างอย่างถูกต้องและเหมาะสม เป็นส่วนหนึ่งของทุกการดำเนินงานของมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้เราดูแลผู้คนและปกป้องทรัพยากรของเรา พร้อมมอบช่วงเวลาแห่งความสุขและสุขภาวะที่ดีให้กับผู้บริโภคทั่วโลกในปีที่ผ่านมา

“เป้าหมายของเราสำคัญมากขึ้นกว่าที่เคยผลักดันให้เรารุดหน้าพัฒนาการดำเนินงานตามแนวทางของความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยการสนับสนุนการผลิตและบริโภคขนมและของว่างอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นองค์กรที่สนับสนุนความหลากหลาย ความเสมอภาค การยอมรับความแตกต่าง และความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และเราพร้อมจะเป็นผู้นำในการกำหนดวิสัยทัศน์ของการบริโภคขนมและของว่างในอนาคต”

สำหรับประเทศไทย มอนเดลีซฯดำเนินโครงการมากมายเพื่อส่งเสริมด้านความยั่งยืนเช่นเดียวกัน โดยโรงงานผลิตลูกอมและหมากฝรั่งในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีเป้าหมายในการเป็นโรงงานสีเขียว ด้วยการลดใช้พลังงานผ่านโครงการต่าง ๆ ส่งผลให้โรงงานแห่งนี้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวจากกระทรวงอุตสาหกรรมในปี พ.ศ. 2558 พร้อมทั้งได้รับการรับรองว่าเป็นโรงงานที่สามารถกำจัดขยะให้เหลือศูนย์โดยใช้ประโยชน์จากของเสียได้ทั้งหมด (zero waste to landfill certificate) และยังสามารถลดการใช้ทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก อาทิ

– ลดการใช้พลังงานลง 14% ในช่วงปี 2563 ช่วยลดมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 13,640 ตันต่อปี ซึ่งมีค่าเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 81,840 ต้น

– สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 12%

– สามารถลดปริมาณขยะได้ถึง 13% โดยมีการลดวัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ไปแล้วกว่า 164 ตันต่อปี

ที่สำคัญ เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าบนหลังคาหรือโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งจะสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ปีละ 1,988,741 กิโลวัตต์ และลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 1,566 ตันต่อปี

โดยล่าสุดโรงงานลาดกระบังยังได้เข้าร่วมโครงการเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อความยั่งยืน (circular economy) ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้แก่โรงงานเพื่อศึกษาแนวทางในการนำของเสียจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ประโยชน์อื่น ๆ

สำหรับโรงงานอีกแห่งของมอนเดลีซฯซึ่งเป็นแหล่งการผลิตเครื่องดื่มชนิดผง ตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน (renewable energy) 100% ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2 พันตันต่อปี อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดกิจกรรมปลูกป่า

นอกจากนั้น มอนเดลีซฯ ประเทศไทยยังร่วมส่งเสริมการบริโภคขนมและของว่างอย่างเหมาะสม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ การออกผลิตภัณฑ์แบบไม่มีน้ำตาล เช่น ลูกอมฮอลล์ เอ็กซ์เอส (Halls XS) เม็ดอมคลอเร็ท มินต์ แท็บ (Clorets Mint Tab) และหมากฝรั่งเดนทีนชูการ์ฟรี การผสมวิตามินซีในลูกอม Halls Vita-C และการปรับเปลี่ยนส่วนผสม โ

ดยยกเลิกการใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (partially hydrogenated oils) ซึ่งก่อให้เกิดไขมันทรานส์ ออกจากผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมดของบริษัท

นอกจากการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์แล้ว บริษัทยังจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โครงการโรงเรียนสุขหรรษา (Joy Schools) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมโภชนาการที่ดีผ่าน 3 แนวคิดหลัก ได้แก่ การเรียนรู้หลักโภชนาการที่ถูกต้อง การรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

ได้ดำเนินโครงการมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในการสนับสนุนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 14 แห่ง รวม 30 ทุน และมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนกว่า 4,000 คน ด้วยงบประมาณรวมกว่า 11 ล้านบาท

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มอนเดลีซฯ ประเทศไทย ยังสานต่อความมุ่งมั่นในการสร้างสุขภาวะที่ดีผ่านการสนับสนุนด้านอาหารและการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 โดยมอบผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ลูกอมฮอลล์, คุกกี้โอรีโอ, หมากฝรั่งเดนทีน, ช็อกโกแลตแคดเบอรีและแครกเกอร์ริทซ์ รวมเป็นจำนวนกว่า 330,000 ชิ้น

ผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิไอแคร์ ประเทศไทย (iCare Thailand Foundation) และมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ระหว่างการปฏิบัติงานในโรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ

ทั้งยังพร้อมสนับสนุนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวในสถานสงเคราะห์เด็กและผู้สูงอายุ โรงเรียน ชุมชนในพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ผู้ยากไร้และผู้ว่างงานทั่วประเทศ ส่งผลให้ยอดบริจาคตั้งแต่เริ่มดำเนินงานในปี พ.ศ. 2563 ถึงปัจจุบันรวมเป็นมูลค่ากว่า 9.8 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนราว 1 แสนคน

ที่สำคัญ มอนเดลีซฯ ประเทศไทยยังมุ่งเน้นให้พนักงานภายในองค์กรคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของตนเองเป็นอันดับแรก โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในทุกขั้นตอนการผลิตด้วยมาตรฐานระดับโลก และปฏิบัติตามข้อกำหนดและคำแนะนำด้านสาธารณสุขของหน่วยงานภาครัฐอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนการผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่ายยังสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“พสิษฐ์ อัครนันท์กรณิศ” ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในประเทศไทย เราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมมาโดยตลอด

และได้สานต่อความมุ่งมั่นระดับโลกผ่านกิจกรรมและโครงการในระดับท้องถิ่นมากมาย เพื่อเข้าถึงและสนับสนุนผู้บริโภคและชุมชนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขั้นตอนการผลิต การสนับสนุนแนวคิดการบริโภคขนม และของว่างอย่างเหมาะสม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคมากขึ้น และการส่งเสริมโภชนาการที่ดีแก่เยาวชนผ่านโครงการโรงเรียนสุขหรรษา (Joy Schools)

“นอกจากนี้ เรายังตระหนักถึงผลกระทบที่รุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 ต่อสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมา เราจึงได้สนับสนุนการดำเนินงานของบุคลากรทางการแพทย์และช่วยเหลือชุมชนในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบมาตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสุขภาวะที่ดีผ่านการบริจาคเงิน ชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีแก่ทั้งกายและใจให้แก่ผู้บริโภคและชุมชนต่าง ๆ อย่างยั่งยืน”

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล จึงกำหนดเป้าหมายระดับโลกสำหรับโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่จะต้องบรรลุให้สำเร็จภายในปี พ.ศ. 2568 อาทิ

– 100% ของปริมาณโกโก้มีซึ่งเป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตมาจากโครงการโกโก้ ไลฟ์ (Cocoa Life) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนของบริษัท

– ตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดกระบวนการให้ได้ 10%

– 100% ของบรรจุภัณฑ์จะต้องถูกออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และระบุข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลบนบรรจุภัณฑ์

– ลดปริมาณการใช้งานพลาสติกผลิตใหม่แบบคงรูป 25%