นายกฯประกาศลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน ลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาท/หน่วย สำหรับกลุ่มที่ใช้ไม่เกิน 300 หน่วย พร้อมตรึงราคาดีเซล-ก๊าซหุงต้มต่ออีก 3 เดือน “พีระพันธุ์” เตรียมรื้อกฎหมาย ปรับโครงสร้างราคาพลังงานทุกชนิด
วันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การลดค่าใช้จ่ายเรื่องราคาพลังงาน พยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร และค่าไฟฟ้าไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย แต่ต้องดูราคาค่าก๊าซอีกทีว่าลงไปเท่าไหร่ จึงยังไม่ประกาศ แต่น่าจะเป็นข่าวดีที่น่าจะต่ำกว่านั้น ขอให้รอการประกาศอีกครั้ง
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มีมติลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน เพื่อลดความเดือดร้อนจากราคาพลังงาน ดังนี้
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2567 โดยกระทรวงพลังงานจะหารือกับกระทรวงการคลังในการบริหารจัดการด้านราคา ใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนราคาก๊าซหุงต้มที่ประชุมก็ได้มีมติให้ตรึงราคาที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เป็นระยะเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2567 โดยบริหารผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
และมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า ที่ประชุมได้มีมติให้ปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566
นอกจากนั้น ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รับภาระเงินคงค้างสะสม (AF) สำหรับงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2567 แทนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าไปพลางก่อน
ส่วนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะมีการทบทวนสมมุติฐานปริมาณและราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
และจะมีการนำส่วนลดค่าก๊าซธรรมชาติ จำนวน 4,300 ล้านบาท จากการขาดส่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยของผู้ผลิต (Shortfall) ในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 มาช่วยลดราคาก๊าซธรรมชาติในรอบนี้ด้วย ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวทั้งหมด จะทำให้ค่าไฟฟ้างวดเดือนมกราคม-เมษายน 2567 จะอยู่ที่ไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะได้รับส่วนลดเพิ่ม 21 สตางค์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 17 ล้านครัวเรือน จะจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราเดิมคือ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยในส่วนนี้จะใช้งบฯกลางในการบริหาร คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1,950 ล้านบาท
นายพีระพันธุ์กล่าวว่า หลังผมได้รับตำแหน่ง ผมและข้าราชการเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่กระทรวงพลังงานนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการหาแนวทาง ใช้ทุกมาตรการ เพื่อลดราคาพลังงานทุกชนิดให้แก่ประชาชน
ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ราคาก๊าซธรรมชาตินำเข้าจากต่างประเทศอยู่ในระดับสูง ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในประเทศก็ยังผลิตไม่ได้ตามแผนเนื่องจากมีการเปลี่ยนผ่านผู้รับสัมปทาน อีกทั้งสงครามภายนอกที่ยืดเยื้อ และพลังงานสะอาด ทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ที่มีอยู่ในระบบปัจจุบันก็ยังมีต้นทุนสูง ทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบมาเป็นต้นทุนค่าไฟ
ที่ผ่านมาก็ได้รับการช่วยเหลือจาก กฟผ. ในการแบกรับภาระค่าไฟฟ้าบางส่วนมาโดยตลอด รวมทั้งให้ประมาณการราคาก๊าซธรรมชาติให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นธรรม ดังนั้น ผมต้องรักษาสมดุลให้กับทุกฝ่าย และในส่วนของน้ำมัน ผมก็ได้หารือกับกระทรวงการคลังในการใช้กลไกการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตเพื่อให้สามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท ต่อไปอีก 3 เดือน
ส่วนราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่ผมได้สั่งการให้มีการลดราคาตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ก็ยังมีผลต่อเนื่องยาวไปจนถึง 31 มกราคม 2567
“ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่คณะรัฐมนตรีมีมติในวันนี้ ถือเป็นของขวัญปีใหม่จากกระทรวงพลังงาน แต่เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเท่านั้น ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการรื้อกฎหมาย กฎระเบียบต่าง ๆ ให้มีความทันสมัย เหมาะสมกับสถานการณ์ ประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด จะไม่มีเสียงครหาว่ากระทรวงพลังงานเอื้อกลุ่มทุนพลังงาน” นายพีระพันธุ์กล่าว