“อธิบดีหน้ากาก” เข้ากรุ สอบหน้ากากไม่ระบุคนผิด ?

กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง “ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี” เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2563 ให้ นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปปฏิบัติราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี ผลจากการดำเนินการจัดการกระจายหน้ากากอนามัย ซึ่งภายหลังจากมีคำสั่ง นายวิชัยได้ยื่นหนังสือลาออก แต่ถูก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ระงับใบลาออก โดยอนุญาตให้เป็นการลาพักร้อน 30 วันก่อน กระทั่งถึงวันที่
23 เมษายน 2563

ล่าสุดเป็นที่แน่ชัดว่า นายวิชัยกลับมารับหน้าที่ปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯต่อเป็นที่เรียบร้อย โดยยังเหลืออายุราชการอีก 4 เดือนก็จะเกษียณ ขณะที่การปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อสานต่อภารกิจ โดยได้มอบหมายให้ “นายประโยชน์ เพ็ญสุต” รองอธิบดีกรมการค้าภายใน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายในไปพลางก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือจนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบริหารจัดการหน้ากากอนามัยเป็นที่เรียบร้อย

โดยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ได้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย ซึ่งมี นายสุพพัต อ่องแสงคุณ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และมีตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นกรรมการ เช่น ตำรวจ, กฤษฎีกา, อย. ฯลฯ นั้น แต่งตั้งโดยนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เมื่อช่วงกลางมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ตรวจสอบและรายงานกลับไปที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแล้ว แต่ผ่านเกือบ 2 เดือน ยังไม่มีการชี้แจง ผลสรุปการพิจารณาว่า ตัดสินอย่างไรและจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขึ้นอยู่กับ “ปลัดกระทรวงพาณิชย์”

แม้ว่าทางคณะกรรมการจะยืนยันว่าการตรวจสอบดังกล่าวไม่ได้พุ่งเป้าว่า “ใคร” คือ ผู้ที่กระความผิด แต่จะเน้นในเรื่องของการบริหารจัดการมีปัญหาหรือช่องโหว่หรือไม่ แต่หากจะเอาผิดหรือไม่เอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ก็สามารถพิจารณาจากเจตนาของการกระทำ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ประมาท เลินเล่อ จนทำให้เกิดช่องโหว่หรือไม่ หรือมีผลประโยชน์ร่วมกันกับโรงงานหรือไม่ หรือตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบโรงงานทุกซอกทุกมุมได้หรือไม่เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของปลัดกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

ต้องลุ้นว่า การพิจารณาเคสประวัติศาสตร์นี้จะมีก่อนที่อายุราชการ “นายวิชัย” จะเกษียณหรือไม่ และไม่เพียงเท่านั้น ประเด็นที่ต้องจับตาต่อไปคือ บุคคลที่จะมารับไม้ต่อในการบริหารงานงานกรมการค้าภายในว่าจะเป็นลูกหม้อหรือม้ามืด ซึ่งมีการกล่าวถึงกระแสผู้ที่เหมาะสมจะมารับตำแหน่ง ทั้งนายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน, นายสุชาติ สินรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการค้าภายในประเทศ และก่อนหน้านี้เป็นรองอธิบดีกรมการค้าภายในมาก่อน หรือ นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมการค้าภายในมาก่อนเช่นกัน

นอกจากลูกหม้อกรมการค้าภายในแล้ว ยังมีข้าราชการระดับสูงอีกหลายท่าน ทั้งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ 3 คน และมีผู้ตรวจราชการอีก 6 คน ที่มีโอกาสจะคว้าเก้าอี้ “อธิบดี” เช่นกัน แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็น “ใคร” มารับไม้ก็ต้องสานต่อภารกิจที่ท้าทายของกรมการค้าภายใน ทั้งการกระจายหน้ากากอนามัย การดูแลราคาสินค้า รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการประกันรายได้ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรด้วย