พาณิชย์ ดันผู้ประกอบการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง

“จุรินทร์”ผลักดันผู้ประกอบการ ผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เน้นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มรายได้

วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาหลักสูตร เกษตรทันสมัย พาณิชย์ขายให้ออนไลน์ทั่วโลก รุ่นที่ 2 ภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” และโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออกรุ่นที่ 140 ผ่านระบบ Zoom webinar ว่า ได้ใช้โอกาสนี้ให้แนวทางแก่ผู้ประกอบการของไทย โดยให้ใช้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ต้องทำการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มราคาให้กับสินค้า และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการ จะผลิตสินค้าแบบเดิมซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐาน หรือแค่แปรรูปเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว

“จะต้องไม่ขายสินค้าเกษตรพื้นฐาน สินค้าเกษตรแปรรูป เพราะเราผ่านจุดที่เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรมาแล้ว เราต้องไปสู่จุดที่ผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ต้องพัฒนาไปให้ไกล ต้องมีงานวิจัยมาช่วย อย่างออร์แกนิก ก็อย่าหยุด กำลังเป็นเทรนด์โลก หรืออาหารแนวใหม่ เครื่องสำอางที่ทำจากวัตถุดิบเกษตร ก็เป็นตลาดที่กำลังเป็นแนวโน้มของโลก เป็นตลาดที่คนรุ่นใหม่ต้องการ และเป็นตลาดใหญ่มาก”

นายจุรินทร์กล่าวว่า จุดแข็งของไทย คือ เป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตร มีวัตถุดิบทุกอย่างอยู่ในประเทศ ไม่เหมือนกับบางอุตสาหกรรม ต้องนำเข้าวัตถุดิบ และนำมาผลิต เสร็จแล้วขาย เหลือไม่เท่าไร แต่สินค้าเกษตร ทุกอย่างตกอยู่ภายในประเทศ ตกอยู่กับเกษตรกรและผู้ประกอบการ จึงต้องให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ต้องรู้โลกต้องการอะไร แล้วทำให้ได้ ก็จะตอบโจทย์ความต้องการได้ และมีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับเกษตรและอาหาร ที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์ของโลกในปัจจุบัน เช่น อาหารออร์แกนิก ใครที่ทำอยู่ ถือว่ามาถูกทางแล้ว ทำต่อให้เข้มข้นขึ้น เพราะตลาดต้องการมาก เกษตรปลอดภัย เกษตรปลอดสารพิษ ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกันที่ต้องทำ ต้องเดินต่อ อาหารแนวใหม่ อาหารฮาลาล อาหารเพื่อสุขภาพ ก็กำลังเป็นที่นิยม ก็ต้องเร่งพัฒนา เร่งทำ หรือผลไม้ ก็ยังเป็นสินค้าที่มีอนาคต หลายตลาดต้องการผลไม้ไทย แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ การรักษาคุณภาพการผลิต การปลูก การเก็บรักษา โดยนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อให้คงสภาพดีจนถึงปลายทาง