สรุปภาพรวมกองทุนประหยัดภาษี SSF-RMF โค้งท้ายปี’65

การลงทุน

เช็คภาพรวมกองทุนประหยัดภาษี SSF- RMF  โค้งสุดท้ายปี 2565 แม้ว่ามูลค่าการลงทุนจะน้อยกว่าในปีที่ 2564 แต่โดยรวมในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ยังถือว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

วันที่ 1 มกราคม 2565 ข้อมูลจากบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)  เปิดเผยว่า กองทุน SSF แสดงภาพในลักษณะเดียวกันคือมีเงินไหลเข้าสะสมรอบ 11 เดือน ต่ำกว่ารอบปีที่แล้ว แต่ในเดือนธันวาคมมีเงินไหลเข้าสุทธิใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสะสม ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท

ด้านกองทุน RMF ในรอบ 11 เดือนที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าสุทธิเกือบ 9 พันล้านบาท ต่ำกว่าปี 2564 ที่ระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนธันวาคมนี้ผู้ลงทุนยังให้ความสนใจกองทุนประหยัดภาษีมากเช่นเดิม โดย ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2565 มีเงินไหลเข้าสุทธิสะสมเดือนธันวาคม 9.8 พันล้านบาท หรือระดับเดียวกันกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ในแง่ผลตอบแทนกองทุนประหยัดภาษีประเภทตราสารทุนที่มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปีสูงสุดดังนี้

โดยกองทุน SSF ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.21% คือกองทุน TISCOWB-SSF  จากบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด

ขณะที่กองทุน RMFผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.22% คือกองทุน IN-RMF  จากบริษัท หลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้จากตารางจะเห็นได้ว่าเป็นการลงทุนในประเทศทั้งหมด อันเกิดจากผลตอบแทนหุ้นไทยในปีนี้ดีกว่าต่างประเทศค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามการลงทุนทั้ง SSF และ RMF เป็นการลงทุนระยะยาวและมีสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลาย เช่น ตราสารทุน ตราสารหนี้ กองทุนผสม เป็นต้น ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงพอร์ตการลงทุนของตนเอง ประกอบกับพิจารณาความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้าเพื่อให้เลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้