NOBLE ขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี จ่ายดอกเบี้ยสูง 4.6-4.8% ต่อปี

หุ้นกู้-ธนบัตร

NOBLE เตรียมขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี ช่วงวันที่ 3-5 เม.ย.2566 แก่นักลงทุนทั่วไป-สถาบัน จ่ายดอกเบี้ยสูง 4.60-4.80% ต่อปี ชำระคืนหนี้-ทุนหมุนเวียน

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือหุ้นกู้ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 จำนวน 1 รุ่น อายุ 3 ปี (คาวมเสี่ยงระดับ 5) ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 7 เมษายน 2569

โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยคงที่ 4.60-4.80% ต่อปี กำหนดจ่ายอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน มีแผนเสนอขายช่วงระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2566 แก่นักลงทุนทั่วไปและหรือผู้ลงทุนสถาบัน โดยผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อขั้นต่ำ 1 แสนบาท ทวีคูณครั้งละ 1 แสนบาท

เบื้องต้นยังไม่ประกาศวงเงินเสนอขาย โดยมีแผนนำเงินไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้เดิมและเป็นเงินทุนหมุนเวียน มีธนาคารกรุงศรีฯเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้และนายทะเบียนหุ้นกู้โดยมีผู้จัดจำหน่ายประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย , ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด, บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

มีอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ BBB แนวโน้ม Stable เมื่อวันที่ 3 กมุภาพันธ์ 2566 โดย บริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวออกภายใต้โครงการตราสารหนี้ (MTN) ปี 2566 ประกอบด้วยหุ้นกู้วงเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 12,000 ล้านบาท

สำหรับ NOBLE มีเป้าหมายก้าวขึ้นเป็น TOP 5 ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ภายในปี 2567 โดยมีเป้าหมายฐานรายได้ที่ระดับ 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปี ด้วยกลยุทธ์ในการดำเนินงานของบริษัทคือ

1.ขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มีการเติบโตสูง (Penetration of High Growth Segment) เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด จากการพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ใหม่ NUE ให้ครอบคลุมทำเลใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่ต้องการมีที่อยู่อศัยบนทำเลที่คุ้นเคย สะดวกสบายสไตล์คนเมืองในราคาที่จับต้องได้

2.ขยายธุรกิจเชิงรุกสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต (More Aggressive and Sustainable Investment Portfolio) มุ่งเน้นการขยายธุรกิจเชิงรุกสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนในอนาคต โดยขยายรูปแบบผลิตภัณฑ์ไปสู่ กลุ่มลูกค้าใหม่

โดยตั้งเป้าหมายสร้งความสมดุลระหว่างแบรนด์ NUE และแบรนด์ Noble ในสัดส่วน 50:50% รมทั้งขยายการพัฒนาโครงการแนวราบ และโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low rise มากขึ้นในสัดส่วนประมาณ 40-50% และรูปแบบ High rise ในสัดส่วนประมาณ 50-60% เพื่อให้รองรับกลุ่มลูกค้ได้หลากหลาย

3.ขยายธุรกิจในรูปแบบการร่วมลงทุน กับพันธมิตรทางธุรกิจระดับชั้นแนวหน้า (Strategic Partnership) ขยายธุรกิจในรูปแบบการ่วมลงทุน เพื่อให้บริษัทสามารถขยายการลงทุนได้เร็วยิ่งขึ้น โดยจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับชั้นแนวหน้าที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเสริมศักยภาพและสร้างความแข็งแกร่งในการพัฒนาธุรกิจ

4.ขยายการลงทุนในต่างประเทศ (Overseas Expansion) รักษาความเป็นผู้นำยอดขาย รวมถึงรักษาฐานลูกค้ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ เพื่อให้บริษัทคงสถานะผู้นำของตลาดอย่างต่อเนื่อง และต่อยอดธุรกิจไปสู่การพัฒาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศเพื่อรองรับ ความต้องการลูกค้าต่างชาติ และเป็นการกระจายความสี่ยงด้วยการเพิ่มความหลากหลายทางภูมิศาสตร์

5.การขายสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนช้าออกไป (Asset Light Model – Higher ROE) การขายสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนช้าออกไป เพื่อนำรายได้มาลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่เร็วขึ้นและมากขึ้น