หุ้นไทยแกว่งตัว 1,370-1,390 จุด ราคาน้ำมันร่วงแรงเป็นลบกลุ่มพลังงาน

หุ้นไทย

บล.กรุงศรีพัฒนสินฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว 1,370-1,390 จุด แม้สุนทรพจน์ประธานเฟดบ่งชี้ดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดลงแล้วเป็นบวกกับการลงทุนพันธบัตร-ตลาดหุ้น แต่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.49% ร่วงแรงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน กังวลเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น หลังภาคการผลิตของสหรัฐยังหดตัวต่อเนื่อง เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน

วันที่ 4 ธันวาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีพัฒนสินฯ รายงานว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ (1 ธ.ค.) ดัชนี SET Index เพิ่มขึ้น 0.13 จุด (+0.01%) ปิดที่ระดับ 1,380 จุด ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบตลาด ไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ นักลงทุนหมุนกลุ่มเก็งกำไรเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเดินเรือ และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370-1,390 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนจากประธานเฟดสนับสนุนว่าอัตราดอกเบี้ยอาจแตะระดับสูงสุดแล้ว ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐและเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงมากกว่า 2% หลังดัชนีภาคการผลิตสหรัฐเดือน พ.ย. ยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอที่ระดับ 46.7 ซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน

รายละเอียดประเด็นสำคัญต่าง ๆ คือ 1.เมื่อวันศุกร์สหรัฐรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM ในเดือน พ.ย.ทรงตัวที่ระดับ 46.7 แต่น้อยกว่าที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 47.6 ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นระดับดัชนีที่ต่ำกว่า 50 ซึ่งสะท้อนภาคการผลิตยังหดตัวเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน (กังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐมากขึ้น)

2.นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแอตแลนต้าของสหรัฐ โดยครั้งนี้ ประธานเพดระบุว่าจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เข้มงวดหรือผ่อนคลายมากเกินไป สะท้อนว่าเฟดจะตึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม หรือบ่งชี้ว่าดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดลงแล้วเป็นบวกกับการลงทุนในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น

3.ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 1.89 เหรียญ (-2.49%) ปิดที่ระดับ 74.07 เหรียญ/บาร์เรล ร่วงแรงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น หลังภาคการผลิตของสหรัฐยังหดตัวอย่างต่อเนื่อง

หากปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยจะทำให้ดีมานด์พลังงานลดลงกดดันราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุน จึงแนะนำเลือกซื้อกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเช่นเดิม

เช่น PSL, TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น GULF, GPSC, BGRIM, TASCO, SCGP อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง WHA, AMATA เติบโตตามการลงทุนอุตสาหกรรมรถ EV และศูนย์ Data center

หุ้นแนะนำวันนี้ MTC (ปิด 43.75 บาท ซื้อ/เป้าสูงสุด AA Consensus ที่ 56 บาท) ดอกเบี้ยผ่าน
จุดสูงสุดไปแล้ว ล่าสุด กนง. คงดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 16 เดือน ขณะที่ FED Meeting คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5% ตามเดิม

ด้านบอนด์ยีลด์สหรัฐปรับลงต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับ 4.19% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

WHA (ปิด 5.15 บาท ซื้อ/เป้า 5.40 บาท) คาดยอดขายที่ดินจะพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้และปีหน้าที่ 2,700 ไร่ และ 3,000 ไร่ ตามลำดับจากยอดซื่อของกลุ่ม EV car และมีอัพไซด์จากกลุ่มทุนสหรัฐเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจ Data Center ของ Google, Microsoft และรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla