กรมสรรพสามิต บุกจับบุหรี่เถื่อน 4 รายใหญ่ทั่วไทย ปรับกว่า 34 ล้านบาท

กรมสรรพสามิต

กรมสรรพสามิต ปูพรมจับผู้ลักลอบค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ได้ใน 4 พื้นที่ ยึดของกลางเพียบ พบภาคใต้หนักสุด ร่วมกันปรับกว่า 34 ล้าน

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวถึงความคืบหน้าในการปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะการปราบปรามบุหรี่เถื่อนตามนโยบายของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่มีความมุ่งมั่นในการขจัดขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนอย่างเคร่งครัด

และได้มีการปฏิบัติงานในรูปแบบการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายสรรพสามิต ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะผู้กระทำผิดที่เป็นกลุ่มกระบวนการรายใหญ่ และการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ที่เป็นที่นิยมและแพร่หลายในปัจจุบัน

ดร.นิตยากล่าวว่า ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้มีการยกระดับการปฏิบัติงานเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ EASE Excise ในการยกระดับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้า โดยไม่ได้เสียภาษี โดยใช้เครื่องเอกซเรย์ช่วยในการตรวจสอบ ณ สำนักงานไปรษณีย์ ศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าเอกชน

เพื่อตรวจสอบรถขนส่งสินค้าที่มาจากพื้นที่เสี่ยงและเป็นการตัดตอนเส้นทางการส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ อาทิ ภาคเหนือที่จังหวัดนครสวรรค์ ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดชุมพร และภาคตะวันออกที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดปราจีนบุรี

รวมถึงได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศลงพื้นที่ตรวจสอบปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ตามพื้นที่เป้าหมายทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และเขตพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ

ผลจากการปฏิบัติงานการปราบปรามเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปรามและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตภาค ที่มีการลงพื้นที่ปูพรมปราบปราม ผู้กระทำผิดทั่วประเทศ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ กรมสรรพสามิตสามารถจับผู้ลักลอบค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ได้ใน 4 พื้นที่ รายละเอียด ดังนี้

1.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8, เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจของพื้นที่นครศรีธรรมราช, สายตรวจปราบปรามภาคที่ 8, สายตรวจปราบปรามสาขาทุ่งสง ร่วมบูรณาการในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.ปพ.บก.สสภ. 8 จับกุมคดียาสูบ จำนวน 1 คดี สถานที่เกิดเหตุตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลางในคดี ดังนี้

  • บุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน (ของกลางมีทั้งหมด 17 รายการ) จำนวน 18,750 ซอง
  • บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ SMS Red ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 1,500 ซอง
  • บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ Wonder S Green ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 500 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 20,750 ซอง
  • รถยนต์นั่งยี่ห้อ Honda Jazz จำนวน 1 คัน
  • กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ชุด ประมาณค่าปรับ 19,546,500 บาท

2.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8 พร้อมด้วยสายตรวจปราบปรามภาคที่ 8, ชุดเฉพาะกิจของพื้นที่นครศรีธรรมราช ร่วมกันบูรณาการในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.ปพ.บก.สสภ. 8 ร่วมกันตรวจยึดของกลางในคดี (ไม่มีตัวผู้กระทำผิด) สถานที่เกิดเหตุที่ทำการไปรษณีย์ ตำบลชะอวด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายละเอียดของกลาง ดังนี้

  • บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อกรองทิพย์ 90 ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 2,000 ซอง
  • บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ Wonder S Green ขนาดบรรจุซองละ 20 มวน จำนวน 500 ซอง
  • บุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ (ของกลางจำนวน 9 รายการ) จำนวน 13,500 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 16,000 ซอง ประมาณการค่าปรับ 15,011,313 บาท

3.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครสวรรค์ บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ตรวจสอบสินค้ายาสูบที่ส่งผ่านศูนย์ไปรษณีย์นครสวรรค์ เพื่อกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตรวจยึดพัสดุสินค้ายาสูบที่ไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิต มีรายละเอียดของกลาง ดังนี้

  • บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ กรองทิพย์ 90 ซองแข็ง จำนวน 180 ซอง
  • บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ กรองทิพย์ 90 ซองธรรมดา จำนวน 4,490 ซอง
  • บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ TEXAS 5 จำนวน 3,990 ซอง (4) บุหรี่ซิกาแรต ยี่ห้อ CAPITAL จำนวน 200 ซอง รวมของกลางบุหรี่ซิกาแรตทั้งสิ้น 8,860 ซอง ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ส่งพัสดุสินค้ายาสูบ ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 (1) ประมาณการค่าปรับ 7,673,540 บาท

4.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ฝ่ายป้องกันและปราบปราม 3 สายตรวจสรรพสามิตที่ 3.3 บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต จำนวน 1 ราย คดียาสูบบุหรี่ซิการ์ต่างประเทศ ของกลางจำนวน 2,359 มวน ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 (1) ประมาณการค่าปรับ 3,892,350 บาท

ดร.นิตยากล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสรรพสามิตได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัด ซึ่งสินค้าเหล่านี้หากเล็ดลอดไปได้จะสร้างความเสียหายให้กับรัฐเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต รวมถึงการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทย จากการได้รับสินค้าปลอมที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ [email protected]