บอร์ดสลากไฟเขียวพิมพ์ล็อตเตอรี่ขาย100ล้านใบต่องวด ตั้งคณะทำงานหาข้อสรุปฟื้นชีพ”หวยบนดิน”ในอีก1เดือน

บอร์ดสลากไฟเขียวพิมพ์ล็อตเตอรี่ขาย 100 ล้านใบต่องวด ตั้งคณะทำงานหาข้อสรุปฟื้นชีพ “หวยบนดิน” ในอีก 1 เดือน ชงรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า วันนี้ (24 มิ.ย.) คณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีมติให้ตั้งคณะทำงานชุดพิเศษขึ้นมาเพื่อศึกษาถึงแนวทางออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ โดยมีนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลาก และโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นประธานคณะทำงานศึกษา เพื่อสรุปเสนอให้บอร์ดพิจารณาอีกครั้งในอีก 1 เดือน หรือสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ค.

“บอร์ดให้คณะทำงานนำแนวทางที่เคยศึกษากันไว้นานแล้ว สรุปผลออกมาให้ได้อย่างชัดเจน รวมทั้งมี Action plan ต่าง ๆ ออกมา เพราะตามกฎหมายต้องมีขั้นตอน ทั้งการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งเราในฐานะคณะกรรมการสลากในช่วงเปลี่ยนผ่าน คาดว่าจะนำเสนอรัฐบาลใหม่ได้ทัน” นายพชรกล่าว

ทั้งนี้ กรณีที่ว่าจะมีการฟื้นหวยบนดินนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่จะออกมาเป็นรูปแบบใด แต่จะศึกษาครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสลาก 2 ตัว 3 ตัว 4 ตัว 5 ตัว ล็อตโต้ หรือสลากที่อาจจะไม่ใช่ตัวเลข

นายพชรกล่าวด้วยว่า บอร์ดยังได้อนุมัติให้พิมพ์สลากเพิ่มอีก 10 ล้านใบ เป็น 100 ล้านใบ เพื่อแก้ไขปัญหาสลากที่ยังมีขายเกินราคาอยู่ โดยกรอบที่พิมพ์เพิ่มนั้น เป็นไปตามที่บอร์ดสลากเคยอนุมัติไว้ตั้งแต่ปี 2560

นายธนวรรธน์กล่าวว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา การดำเนินการจัดทำสลากรวมชุดแบบ 2-2-1 ซึ่งเริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 1 มี.ค. 2562 ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ แต่ผู้ขายมีข้อเรียกร้องว่าต้องการสลากในปริมาณที่มากขึ้นเป็น 10-50 เล่มต่อราย จากเดิมที่ได้รับจัดสรรเพียง 5 เล่มต่อราย ดังนั้น บอร์ดได้พิจารณาแล้วว่า ยังมีความไม่สมดุลในตลาดสลาก ที่ทำให้ผู้ขายเหล่านี้ต้องเข้าไปพึ่งพาตลาดขายส่ง (ยี่ปั๊ว) จึงได้มีมติให้พิมพ์สลากเพิ่มอีก 10 ล้านฉบับ เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ขายในระบบซื้อ จองล่วงหน้า โดยเริ่มในรอบจองงวดวันที่ 1 ส.ค.2562 เป็นต้นไป

“การเติมสลากเข้าไป ไม่ใช่เติมให้คนซื้อ แต่เป็นการเติมให้ผู้ขาย เพื่อให้คนที่ขายจริงสามารถซื้อสลากได้มากขึ้น ซึ่งจะไปลดการพึ่งพาตลาดขายส่ง และคนที่มารับสลากไปขายต่อในตลาดขายส่งจะทำได้ยากลำบากขึ้น เพราะสลากอยู่ในมือคนที่ขายจริง โดยจำนวน 10 ล้านใบที่เพิ่มขึ้นนั้น จะทำให้มีคนเข้ามาซื้อได้เพิ่มอีก 2 หมื่นราย” นายธนวรรธน์กล่าว

ทั้งนี้ นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการสลากฯ ยังเห็นว่าควรมีมาตรการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 จะเพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยใช้แอปพลิเคชั่นในการตรวจสอบผู้ค้าสลากรายย่อย เพื่อต้องการจัดระเบียบ และเก็บข้อมูลทั้งตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสลากกินแบ่งรัฐบาล 4.0 ซึ่งเมื่อระบบสมบูรณ์แล้ว จะทราบข้อมูลการจำหน่ายสลากในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วนมากขึ้น อาทิ ปริมาณการซื้อ-ขายสลากในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าแต่ละงวด และสถานที่จำหน่าย

นอกจากนี้ แอปพลิเคชันดังกล่าว ยังเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสลากสามารถแจ้งได้ว่าผู้ค้าแผงไหน รายใดบ้าง ที่ขายสลากเกินราคา โดยข้อมูลจะส่งมาที่สำนักงานสลาก ฯ เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาดำเนินการบริหารจัดการสลากได้อย่างเหมาะสมต่อไป

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า จากผลการลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายสลากอย่างต่อเนื่อง พบว่าทั้งผู้ซื้อและผู้จำหน่ายสลากส่วนใหญ่มีความพึงพอใจสลากแบบรวมชุด 2-2-1 มากขึ้น เนื่องจากสามารถหาซื้อสลากรวมชุด 2 ใบ ในราคา 80 บาท มากขึ้น ได้ตามแผงจำหน่ายทั่วไป ในขณะเดียวกันก็มีสลากเดี่ยวใบละ 80 บาทไว้ตอบสนองผู้ซื้อที่มีความต้องการหลากหลาย

ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ครั้งที่ 6/2562 วันที่ 24 มิถุนายน 2562 คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงได้มีมติให้เพิ่มเพดานการจำหน่ายสลาก จากเดิม 90 ล้านใบ เป็น 100 ล้านใบ สำนักงานฯ ดำเนินการพิมพ์สลากแบบรวมชุด (คละเลข) 2-2-1 ในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ต่อไป และให้ปรับสมดุลสลากโดยพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่มในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ในส่วนของสลากจองล่วงหน้าสลากฯ เพิ่มอีก จำนวน 10 ล้านฉบับ เพื่อให้มาตรการประสบความสำเร็จและมีการปรับสมดุลได้ดีขึ้น ตั้งแต่การทำรายการสลากจองวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป