ศาลนัดสืบพยานคดี AQ ฟ้อง “กรุงไทย” มี.ค. ปีหน้า

ศาลนัดสืบพยานกรณี AQ ฟ้อง “กรุงไทย” ไม่บันทึกหนี้ลดต้น คดีที่ดิน 3,898.70 ล้านบาท กำหนดนัดสืบพยานโจทก์-พยานจำเลยใน มี.ค. 2565 หลังเห็นว่ายังต้องอาศัยข้อเท็จจริงจากการสืบพยานในบางประเด็น

วันที่ 28 ตุลาคม 2564 บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีพิพาทระหว่างบริษัทฯ กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ศาลได้นัดชี้สองสถานหรือฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมาย โดยจำเลยทั้ง 13 ยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมาย ศาลได้ตรวจดูคำฟ้องและคำให้การแล้ว เห็นว่ายังต้องอาศัยข้อเท็จจริงจากการสืบพยานในบางประเด็น จึงจะสามารถวินิจฉัยข้อกฎหมายได้ เห็นควรให้ไปวินิจฉัยในคราวเดียวกันกับคำพิพากษา โดยกำหนดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 22-23 มีนาคม 2565 และกำหนดสืบพยานจำเลยวันที่ 24, 29-31 มีนาคม 2565

ทั้งนี้ คดีดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 บริษัท (ในฐานะโจทก์) ได้ฟ้องธนาคารกรุงไทยฯ (ในฐานะจำเลย) เป็นคดีแพ่งต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ พ.2354/2562 เพื่อให้ธนาคารกรุงไทยฯ

เปลี่ยนแปลงงบการเงินไตรมาสแรกปี 2562 โดยให้นำเงินที่ได้รับจากการขายทอดตลาดที่ดินหลักประกันจำนวน 3,898.70 ล้านบาท ไปบันทึกเป็นค่าความเสียหายในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นอกจากนี้ ทาง AQ ระบุว่า ตั้งแต่นัดแรกที่ศาลนัดกำหนดแนวทางการดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์คือ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ฝ่ายจำเลยทั้งหมด (ธนาคารกรุงไทยฯ และกรรมการบริษัทรวม 13ราย) ขอขยายคำให้การและขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การออกไปอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในปี 2563 สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ศาลอนุมัติการขอเลื่อนนัดในหลายครา

ต่อมาจำเลยที่ 13 ได้มีคำร้องถึงศาลขอให้วินิจฉัยข้อกฎหมายในคดีนี้ในวันที่นัดพร้อมคือวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ศาลพิจารณาตรวจดูคำฟ้องและคำให้การแล้วเห็นว่ายังมีข้อเท็จจริงที่ต้องสืบอีกหลายประเด็นไม่สามารถวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฏหมายได้ แต่จะวินิจฉัยให้พร้อมกับการตัดสินคดี ดังนั้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ศาลจึงให้กำหนดประเด็นที่จะพิจารณาคดีให้กระชับ และให้กำหนดสืบพยานโจกท์วันที่ 22-23 มีนาคม 2565 และกำหนดสืบพยานจำเลยวันที่ 24,29-31 มีนาคม 2565

นายไมเคิล อเล็กซานเดอร์ วิลเลี่ยม เฟอร์นันเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีมาก ๆสำหรับบริษัท เพราะศาลยังเห็นว่าเป็นคดีที่สำคัญและมีทุนทรัพย์สูง สมควรให้สืบข้อเท็จจริงละเอียดถี่ถ้วน ศาลจึงไม่วินิจฉัยข้อปัญหาข้อกฏหมายตามที่จำเลยที่ 13 ร้องขอ

“AQ ทำงานอยู่บนความคาดหวังของผู้ถือหุ้นกว่า 3 หมื่นกว่าราย เชื่อว่าหลังจากนัดสืบพยาน ศาลต้องให้คำพิพากษาอันเป็นธรรมกับบริษัทที่ทำให้ทุกคนยิ้มได้ เราเตรียมพร้อม reverse เงินก้อนโตนี้และนำพาให้ธุรกิจของ AQ กลับสู่ยุคทองอีกครั้ง” นายไมเคิลกล่าว