ตลท.ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น KC เริ่มซื้อขายใหม่ 19 พ.ค.นี้

บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้

ตลาดหลักทรัพย์ อนุมัติให้ บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ หรือ KC พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน และปลดเครื่องหมาย “SP” และ “NC” กลับเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ 19 พฤษภาคมนี้ ในหมวดกลุ่มอสังหาฯ และก่อสร้าง พร้อมนำหลักทรัพย์คำนวณใน SET Index หลังซื้อขายวันแรก

วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 นายสันติ ปิยะทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “KC” ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แนวราบด้วยคุณภาพอย่างมั่นคงที่ก้าวสู่ปีที่ 40 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากที่บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ฯ ได้ยื่นคำขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน และขอให้เปิดซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยบริษัทได้ดำเนินการแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน และดำเนินการให้มีคุณสมบัติ เพื่อกลับมาซื้อขายครบถ้วนแล้วนั้น

สันติ ปิยะทัต
สันติ ปิยะทัต

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ ได้อนุมัติให้หลักทรัพย์ KC พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย “SP” (Suspension) (ห้ามซื้อขายหุ้นนั้นเป็นการชั่วคราว) และ “NC” (Non compliance) (หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน) และให้เริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ KC ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ทางตลาดหลักทรัพย์ มีการขึ้นเครื่องหมาย “C” ไว้ที่หลักทรัพย์ KC โดยให้มีการซื้อด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) กล่าวคือ ผู้ซื้อต้องชำระเงินทั้งจำนวนก่อนการซื้อหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันแรกที่มีการซื้อขายจนกว่างบการเงินของบริษัท จะแสดงให้เห็นว่า ส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทมีค่าตั้งแต่ร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว

อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์จะไม่กำหนดราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ของหลักทรัพย์ KC ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการซื้อขาย (อย่างไรก็ดี หากในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ไม่มีการซื้อขายหุ้นสามัญของ KC ตลาดหลักทรัพย์ จะยังคงไม่มีการกำหนด Ceiling & Floor ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการซื้อขายหุ้นสามัญของ KC แล้ว) และเมื่อได้มีการซื้อขายหลักทรัพย์ KC แล้ว ในวันทำการถัดไป Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ KC จะถูกปรับให้เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ จะนำหลักทรัพย์ KC มารวมในการคำนวณดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ในวันทำการถัดไป นับจากวันที่มีการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าววันแรก เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ฯ เดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุน

นายสันติกล่าวเสริมอีกว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการลงทุนและพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง และสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มลูกค้าและนักลงทุน โดยเริ่มจากการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ (รีแบรนด์) ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งอนาคต ที่ให้ความมั่นคง ทันสมัย ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขยายฐานลูกค้า หลังประสบความสำเร็จในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบที่เน้นคุณภาพ และราคาคุ้มค่ามาเกือบ 3 ทศวรรษ

โดยจุดยืนที่ปรับเปลี่ยนใหม่ จะทำให้แบรนด์ เค.ซี.พร็อพเพอร์ตตี้ มีบุคลิกทันสมัยมากขึ้น กระฉับกระเฉง มั่นคง วางใจได้ และสื่อถึงการเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ทันสมัย แต่จับต้องได้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และตอบสนองต่อทุกกลุ่มเป้าหมายทุกเจเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น Gen X, Y, Z, Millennials หรือ Baby Boomer

โดยในปัจจุบัน เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ฯ มีโครงการแนวราบที่มีคุณภาพ รองรับความต้องการของลูกค้าในเบื้องต้น 4 โครงการ ได้แก่

1.โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ เค.ซี. เนเชอรัลวิลล์ บางนา-เทพารักษ์ สำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีผู้สูงอายุ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 8.9 ล้านบาท ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเจนเนเรชัน X, Y ที่ต้องการความคุ้มค่ารวมถึงเนื้อที่ขนาดใหญ่ ความสะดวกสบายครบครัน การอยู่อาศัยพร้อมหน้าครอบครัว อบอุ่น ปลอดภัยและใกล้ชิดกับธรรมชาติ

2.โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แพลทฟอร์ม ออคิด พาร์ค ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาดกลาง เหมาะทั้งครอบครัวที่มีคนหลากหลายเจเนอเรชั่น และที่ต้องการความสะดวกสบาย ในราคาเพียง 3.7-6 ล้านบาท

3.โครงการ เค.ซี. สุวินทวงศ์ 2 เน้นครอบครัวขนาดเล็กในรูปแบบบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคาเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท สำหรับคนอยากมีบ้านหลังใหม่ สามารถอยู่อาศัยได้ทุกวัยและตอบโจทย์ชีวิตสู่การดำเนินธุรกิจที่คล่องตัว บนทำเลระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

4.โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น เค.ซี. คลัสเตอร์ นิมิตใหม่ ที่เป็นทางเลือกให้คนทุกเจเนอเรชั่น ที่อยากมีบ้านที่ทันสมัย เป็นครอบครัวเดี่ยวขนาดเล็กหรือบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เน้นความสะดวกทั้งการทำงาน ประกอบธุรกิจหรืออาชีพอิสระและการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ในราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท (1.39-1.8 ล้านบาท)

นายสันติกล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันบริษัทมีความแข็งแกร่ง และความพร้อมที่จะเข้าเทรดเข้าตลาด 100% ด้วยรากฐานในปัจจุบันของบริษัทที่มีความมั่นคงเป็นอย่างมาก และบริษัทจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะกลับมาสู่ผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยของไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย ตลอดระยะเวลา 39 ปีที่ผ่านมา เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ ยึดมั่นในการพัฒนาบ้านที่มีคุณภาพ คุ้มค่า ใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบาย และปลอดภัย ใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทุกระดับ