ธอส. เล็งขอรัฐเพิ่ม 2 หมื่นล้าน จัดสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ หนุนคนจนมีบ้าน

ธอส.เล็งขอรัฐเพิ่ม 2 หมื่นล้านบาท จัดสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ ช่วยคนจนมีบ้าน หลังเห็นสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้น สิ้นยุคดอกเบี้ยคงที่

วันที่ 8 กรกฎาคม 2565 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้เข้ามากู้มีบ้านเป็นของตนเองได้ต่อไป ธอส. มีแผนที่จะเสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาจัดทำโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำ หลังจากโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ปล่อยกู้หมด

จะขอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 วงเงิน 20,000 ล้านบาท หรือโครงการอื่น เพราะมองว่าดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ จะเป็นอุปสรรคต่อการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อย ธนาคารจึงจำเป็นต้องมีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำออกมาช่วยเหลือต่อ

“หากปล่อยสินเชื่อเต็มวงเงิน ในช่วงปี 2566 ธอส.มีแผนจะขอรัฐบาล เปิดโครงการบ้านล้านหลังต่อ โดยวงเงินอาจใกล้เคียง 20,000 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย โดยรัฐบาลจะเข้ามาช่วยชดเชยต้นทุนดอกเบี้ยให้ 1% เพื่อให้ ธอส. ยังคงปล่อยสินเชื่อได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ต่อ แต่เรื่องนี้จะต้องคำนึงถึงความพร้อมด้านงบประมาณของรัฐที่จะสนับสนุนด้วย”

ทั้งนี้ มองว่าช่วงหลังจากนี้ รูปแบบสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงินต่างๆ จะเปลี่ยนไป ดอกเบี้ยจะสูงขึ้นแน่นอนตามต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น และจะหมดยุคสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไม่มีสินเชื่อแบบคงที่อีกแล้ว โดยรูปแบบสินเชื่ออาจจะเป็นกึ่งลอยตัว เช่น การนำดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ หรือเอ็มแอลอาร์มาเป็นฐาน และลบด้วยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้มีโอกาสแกว่งขึ้นลงได้อยู่

“ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอนาคตอันใกล้ จะไม่มีโปรโมชั่นสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 2-3 ปีแรกอีกต่อไป เช่น คงที่ 2% คงที่ 3% แต่โปรโมชั่นสินเชื่ออาจเป็นแบบกึ่งลอยตัว โดยอ้างอิงกับดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ในตลาด ดังนั้นในช่วงนี้จึงถือเป็นโค้งสุดท้ายที่คนไทยยังจะมีโอกาสที่เข้ามากู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและคงที่ได้อยู่ ซึ่งใครอยากจะมีบ้านต้องรีบตัดสินใจไม่เช่นนั้นดอกเบี้ยจะขึ้นแน่นอน”

สำหรับการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ผ่านโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ซึ่งมีวงเงินสินเชื่อรวม 20,000 ล้านบาท ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิ.ย.65 ธอส. ได้ปล่อยไปแล้วกว่า 15,500 ล้านบาท เหลือวงเงินเพียง 4,500 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยเฉพาะหลังจากการขยายวงเงินกู้จาก 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าลูกค้าที่กู้บ้าน โครงการบ้านล้านหลังที่คิดดอก 1.99% นาน 4 ปี จะยังได้รับดอกเบี้ยคงที่ และเงินงวดการผ่อนชำระตามปกติอยู่ แม้ดอกเบี้ยในตลาดจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ลูกค้าสินเชื่ออื่นที่คิดดอกผูกกับดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ หากธนาคารปรับขึ้นดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ก็จะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ธนาคารจะพยายามคงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้