ครม.ประกาศพื้นที่พิเศษลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 3.47 ล้านไร่ 3 จังหวัด 15 อำเภอ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ครม.เห็นชอบ ประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 3,470,788 ไร่ ครอบคลุมสงขลา 8 อำเภอ พัทลุง 5 อำเภอ นครศรีธรรมราช 2 อำเภอ

วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ตามที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เสนอ พร้อมกับเห็นชอบให้หน่วยงานเกี่ยวข้องนำแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ ไปสู่การวางแผนบริหารจัดการตามแผนงาน

และให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตั้งสำนักงาน อัตราเงินเดือนบุคลาการ เพื่อเป็นหน่วยงานบริหารจัดการพื้นที่พิเศษฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ต่อไป

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามีเนื้อที่รวมประมาณ 3,470,788 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสงขลา 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ระโนด, อ.สะทิงพระ, อ.กระแสสินธุ์, อ.สิงหนคร, อ.เมืองสงขลา, อ.ควนเนียง, อ.บางกล่ำ และ อ.หาดใหญ่ จังหวัดพัทลุง 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองพัทลุง อ.ปากพะยูน อ.บางแก้ว อ.เขาชัยสน และ อ.ควนขนุน จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.หัวไทร

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเป็นพื้นที่ศักยภาพสูง ทั้งในด้านคุณค่าและความโดดเด่นของทรัพยากรท่องเที่ยว และคุณค่าทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นลุ่มน้ำแห่งเดียวของประเทศไทยที่เป็นทะเลสาบแบบลากูน (lagoon) ขนาดใหญ่ ที่ทั่วโลกมีอยู่ 117 แห่งของโลก มีความโดดเด่นด้วยการเป็นทะเลสาบที่ได้รับทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ทำให้ความเค็มในทะเลสาบเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงมีการเรียกขานกันว่า “ทะเลสาบสามน้ำ” ยังเป็นพื้นที่เทือกเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้

แหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา นอกจากนี้ ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มีการกล่าวถึงในทางประวัติศาสตร์มาเป็นเวลาหลายร้อยปี และคุณค่าทางวัฒนธรรม ด้วยมรดกทางวัฒนธรรมทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุ วิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ขณะเดียวกัน พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลายังมีโอกาสในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญเนื่องจากอยู่ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT : Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle) ซึ่งมีการให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว รัฐบาลให้การส่งเสริมด้านโลจิสติกส์เชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดและอาเซียน รวมถึงเชื่อมโยงกับระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า การประกาศเป็นพื้นที่พิเศษฯ นี้ จะนำไปสู่การพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาให้เกิดความยั่งยืนด้วยหลักวิชาการ เนื่องจากมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์บริหารการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งจะทำให้หน่วยงานและภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน มีการขับเคลื่อนที่ต่อเนื่องลดความซ้ำซ้อนของการใช้งบประมาณ เป็นกลไกการบริหารและพัฒนาพื้นที่อย่างบูรณาการด้วยการมีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ ประสานงานกับท้องถิ่น และมีส่วนร่วมจากชุมชน