“พญาเสือ” ชูหลักฐานสำคัญ มัดเปรมชัย “กองอึ” หน้ารถ ชี้ถูกปล่อยระหว่างรอพรานแล่เนื้อ

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า หลักฐานอย่างหนึ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะมัดตัวนายเปรมชัย กรรมสูตร ประธานบริหารและกรรมการบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ว่าเป็นคนล่าสัตว์ ยิงเสือดำในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเศวรฝั่งตะวันตก คือ กองอุจจจาระ ที่กองอยู่หน้ารถ 1 กองใหญ่ เป็นอุจจาระของคน ไม่ใช่อุจจาระของสัตว์ โดยอุจจาระกองดังกล่าวนั้น กองอยู่บริเวณด้านหน้ารถ ห่างจากจุดที่มีการปลดปลอกปืนลูกซองเพียง 3 เมตรเท่านั้น ซึ่งเวลานี้ ตนได้เก็บกองอุจจาระดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อยแล้ว

“สาเหตุที่มั่นใจว่าเป็นกองอุจจาระของนายเปรมชัย เพราะกองอุจจาระอยู่บริเวณหน้ารถคันที่คณะของนายเปรมชัย ขับเข้าไปในป่า คิดว่าคณะของนายเปรมชัยอีก 3 คน คือ นางนที ซึ่งเป็นผู้หญิงนั้นไม่ถ่ายอุจจาระกลางแจ้งแบบนี้แน่นอน ส่วน นายยง คนขับรถ กับนายธานี ที่เป็นพราน ก็คงไม่มีใครกล้าไปผถ่ายอุจจาระหน้ารถของผู้เป็นนายอย่างแน่นอน ทั้งนี้จากหลักฐานการเตรียมเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับการเข้าป่าทั้งหมด กระทั่งสามารถยิงเสือดำได้ แล้วเอามาชำแหละที่จุดนี้ เข้าใจว่า ระหว่างรอให้นายธานีแกะเครื่องในเสือดำออกมาทิ้ง นายเปรมชัย อาจจะรู้สึกปวดท้อง จึงได้ไปนั่งอุจจาระหน้ารถ เพราะจุดดังกล่าว มีก้อนหินและเป็นหลุมลึก ประกอบกับนางนที ที่พยายามหยิบกระโถนออกมาจากรถ แต่ในรถมีของวางทับซ้อนกันมากจึงหยิบไม่ทัน” นายชัยวัฒน์ กล่าว

เมื่อถามว่า อุจจาระกองดังกล่าว จะมัดตัวนายเปรมชัย ว่าเป็นคนยิงเสือดำได้อย่างไร นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริเวณที่พบกองอุจจาระนั้น เป็นจุดเดียวกับที่มีร่องรอยการแล่เนื้อ และชำแหละเครื่องในของเสือดาวออกมา จากเหตุผลที่บอกมาข้างต้นทำให้เชื่อมั่นว่าเป็นอุจจาระของนายเปรมชัย ไม่ใช่ของลูกน้องคนใดคนหนึ่งแน่นอน

เมื่อถามว่า กองอุจจาระที่เก็บมานั้น มั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นอุจจาระของคน ไม่ใช่อุจจาระสัตว์ป่าตัวอื่น นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นเลยก็ดูไม่ยาก เพราะตอนเก็บนั้นก็ยังค่อนข้างใหม่อยู่ เป็นอุจจาระคนแน่นอน แต่จะให้แน่ที่สุดก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานออกมาแจงอีกที ซึ่งตนค่อนข้างมั่นใจ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการลักลอบเข้าไปยิงช้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เมื่อราว 3 ปีก่อน ที่มีการสงสัยกันว่าเป็นฝีมือของนายเปรมชัยหรือไม่ เพราะหัวกระสุนที่เจอในกะโหลกช้างนั้นเป็นกระสุนปืนไรเฟลเช่นเดียวกัน นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ไม่สามารถระบุเช่นนั้นได้ เพราะในป่ากุยบุรีนั้นมีการใช้ปืนไรเฟลกันหลายคน

นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าใน อ.ภูเรือ ของบริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนลที่มีนายเปรมชัยเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารนั้น เจ้าหน้าที่ได้มีการรังวัด รวบรวมแปลงรูปที่ดินมาเพื่อตรวจสอบแล้ว และมีการบินสำรวจโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อถ่ายภาพและหาหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้ เจ้าหน้าที่กรมที่ดินจะนำชี้แนวเขตพื้นที่ที่มีการนำไปออกเอกสารสิทธิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อขึ้นรูปแปลงซึ่งส่วนนี้เรามีข้อมูลพอสมควรแล้ว และยังมีพื้นที่ครอบครองที่มีไม่เอกสารสิทธิที่จะต้องรังวัดนำมาขึ้นรูปแปลง เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามีจำนวนพื้นที่ที่ถูกบุกรุกกินอาณาเขตเท่าไร ส่วนการตรวจสอบบริเวณท่าจอดเรือยอร์ช อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน และมีการขอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมเจ้าท่ากระทรวงคมนาคมหรือไม่ ซึ่งหากมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรมป่าไม้ ทช.คงประสานมาให้เข้าไปตรวจสอบต่อไป

 

ที่มา มติชนออนไลน์