ร่างงบเพิ่มเติมหมื่นล้าน วาระ 1 ผ่าน สภา กทม. ฉลุย

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ร่างงบฯเพิ่มเติมหมื่นล้านผ่านสภา กทม. ฉลุย ส.ก.บี้เร่งลอกท่อระบายน้ำ ทำมาตรฐานทางเท้า

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2566 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมการประชุม

วิรัตน์ มีนชัยนันท์
วิรัตน์ มีนชัยนันท์

เสนอร่างงบฯเพิ่มเติมหมื่นล้าน

จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 พ.ศ. … โดยจ่ายขาดจากเงินสะสมของกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินสะสม พ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 ข้อ 12 กำหนดให้กรณีที่กรุงเทพมหานครมีความจำเป็นจะต้องจ่ายขาดเงินสะสมให้กระทำได้ในกรณีที่เป็นกิจการที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของกรุงเทพมหานคร และที่มีความจำเป็นหรือเร่งด่วนเกี่ยวกับการบริการชุมชนและสังคม หรือเป็นกิจการซึ่งแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง หรือเป็นกิจการที่เป็นการเพิ่มพูนรายได้ให้กรุงเทพมหานคร และต้องเป็นไปตามแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร หรือตามที่มีกฎหมายกำหนด และให้คำนึงถึงฐานะเงินสะสมของกรุงเทพมหานครด้วย อย่างไรก็ดี กรุงเทพมหานครต้องดำเนินการก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกินปีงบประมาณถัดไป หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ตกเป็นเงินสะสม

“กรุงเทพมหานครมีความจำเป็นเร่งด่วนในการบริการชุมชนและสังคม และให้ความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในการดำเนินการซ่อม สร้าง ช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเยียวยา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และจากการเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร” นายชัชชาติกล่าว

โดยสถานะการเงินการคลังของกรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 27 ม.ค. 66 กรุงเทพมหานคร มีเงินฝากธนาคาร 91,685.62 ล้านบาท โดยเป็นเงินสะสมจำนวน 56,270.34 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61.37% ภาระหนี้ตามโครงการต่อเนื่องที่ได้ก่อหนี้ผูกพันแล้ว ณ วันที่ 30 ก.ย. 65 จำนวน 213 โครงการ เป็นจำนวนเงิน 76,406.44 ล้านบาท ฐานะเงินสะสมที่ปลอดภาระผูกพันประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ วันที่ 27 ม.ค. 66 จำนวน 36,843.65 ล้านบาท

ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พ.ศ. …. วงเงินงบประมาณ 9,999.31 ล้านบาท จำแนกตามลักษณะงาน ประกอบด้วย ด้านความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยจำนวน 61.44 ล้านบาท (0.61%) ด้านพัฒนาสังคมและชุมชนเมืองจำนวน 136.10 ล้านบาท (1.36%) ด้านสาธารณสุขจำนวน 328.81 ล้านบาท (3.29%) ด้านเมืองและการพัฒนาเมืองจำนวน 2,619.62 ล้านบาท (26.20%) การจัดบริการของสำนักงานเขตจำนวน 2,907.67 ล้านบาท (29.08%) และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวน 3,945.67 ล้านบาท (-39.46%)

จากนั้นสมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมอภิปรายอย่างกว้างขวาง ดังนี้

นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง กล่าวว่า ขอขอบคุณฝ่ายบริหารที่เห็นความจำเป็น และเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งงบกลางคืองบที่ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก

ในส่วนของร่างงบประมาณสำนักการระบายน้ำ ถือว่ามีประโยชน์ เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ตะวันออก แต่ที่จะติคือ คือเรื่องประตูระบายน้ำคลองสามเสน-คลองบางซื่อ พบว่าไม่มีการเสนอเข้ามา ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จึงอยากสอบถามว่าเป็นเพราะอะไร ในครั้งประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี’66 ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญก็ได้สอบถามไปแล้ว แต่ยังไม่มีการบรรจุเพื่อขอรับงบประมาณแต่อย่างใด ซึ่ง 3-4 เดือนหน้าจะเข้าสู่ฤดูฝนอีกครั้ง ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคงไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน

สำหรับงบประมาณของสำนักการโยธา พบว่ามีการตั้งงบประมาณเพื่อเวนคืนที่ดินหลายจุด ซึ่งในพื้นที่เขตทุ่งครุของส.ก.กิตติพงศ์ รวยฟูพันธุ์ มีปัญหาการจราจรติดขัดหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณถนนประชาอุทิศ 9 เขตทุ่งครุ ที่ต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากมีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง มีประชาชนอาศัยหนาแน่น แต่ขนาดถนนเท่าเดิม จึงขอให้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเวนคืนที่ดิน พร้อมรองรับการขยายถนนต่อไปในอนาคตด้วย

นอกจากนี้ ยังพบว่าที่ผ่านมาการของบประมาณของสำนักการโยธาเพื่อปรับปรุงฟุตปาททางเท้าและผิวจราจรมีจำนวนมากหลายแห่ง หน่วยงานที่ออกแบบควรกำหนดรูปแบบมาตรฐานให้สวยงาม และมีความปลอดภัยสำหรับประชาชนที่สัญจรผ่านไป-มา รวมทั้งตรวจสอบภายหลังการดำเนินการและควบคุมงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งควรติดตามเพื่อให้งบประมาณที่ใช้ไปคุ้มค่าและเกิดประโยชน์

ส.ก.สุทธิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ฝ่ายบริหารชี้แจงข้อเท็จจริงความล่าช้าโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต เขตพระนคร และโครงการเรือไฟฟ้าของสำนักการจราจรและขนส่ง ซึ่งได้หยุดให้บริการมานานกว่า 3 เดือนแล้ว และการขอยืมรถดูดเลนจากสำนักการระบายน้ำเพื่อแก้ปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันในพื้นที่เขตจอมทอง ซึ่งหากเขตจอมทองขอจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถดูดเลนในครั้งต่อไปขอให้ฝ่ายบริหารพิจารณาด้วย เนื่องจากมีความสำคัญและจำเป็นมาก

มาตรฐานกลางทางเท้า

นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.พญาไท กล่าวว่างบประมาณปี’66 ที่สภา กทม.ได้พิจารณาเห็นชอบไปแล้ว พบว่ามีการใช้ไปเพียง 10% แต่ในวันนี้ฝ่ายบริหารจะมาของบประมาณเพิ่มเติม จึงเกรงว่าจะเป็นการซ้ำซ้อนกับงบประจำปีเดิมหรือไม่ และเหตุใดไม่ขับเคลื่อนการใช้งบประมาณประจำปีที่มีอยู่ โดยเฉพาะสำนักการโยธามีการของบประมาณเพื่อปรับปรุงทางเท้าจำนวนมาก แต่กรุงเทพมหานครไม่เคยมีมาตรฐานทางเท้าที่เหมือนกันเลย และต้องซ่อมแซมทุก 2-3 ปี รวมถึงการเว้นระยะทางเท้าบริเวณหน้าบ้านเรือนประชาชนทำให้ประชาชนที่ต้องเดินผ่านต้องเดินขึ้น-ลงทางเท้า ซึ่งควรทำเป็นเนินราบเพื่อให้เจ้าของบ้านขับรถขึ้นไปแทน เพื่อให้ผู้ที่เดินเท้าได้รับความสะดวกเช่นเดียวกับผู้ที่ขับรถ

สำหรับข้อสังเกตเพื่อทำถนนเส้นใหม่ ขอให้มีการออกแบบทางเท้า ท่อระบายน้ำ ท่อร้อยสายลงดินไปพร้อมกัน เพื่อไม่ต้องขุดเจาะหลายครั้งและก่อให้เกิดความไม่สวยงาม ซึ่งการใช้งบประมาณต้องให้ได้ประโยชน์และสวยงามด้วย

“กรุงเทพฯต้องเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ เพราะประชาชนเป็นล้านคนได้เชื่อมั่นและมอบคะแนนเสียงให้ และการใช้งบประมาณต้องครอบคลุมกระจายทุกหน่วยงานให้เท่าเทียมกัน เนื่องจากประชาชนคาดหวังจากท่านมาก การเปลี่ยนแปลงนี้เชื่อว่าจะทำได้” นายพีรพลกล่าว

บี้ กทม. เร่งลอกท่อ

นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า แนวทางการปฏิบัติเพื่อของบประมาณซึ่งควรเป็นโครงการเร่งด่วน แต่พบว่าหลายโครงการไม่มีความเร่งด่วน เช่น โครงการก่อสร้างเส้นทางผจญภัย พื้นที่เขตดุสิต ของสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ซึ่งควรมีการศึกษารายละเอียดโครงการให้ชัดเจนก่อน รวมทั้งโครงการปรับปรุงถนน ตรอก ซอย ที่ผ่านมาในหลายเขตมีปัญหาความล่าช้าเนื่องจากติดขัดเรื่องระบบสาธารณูปโภค ทั้งการไฟฟ้า และการประปา ทำให้หลายโครงการไม่เสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด จึงขอสอบถามความเป็นไปได้ในการให้กรุงเทพมหานครจัดทำท่อร้อยสายเอง และการพิจารณาจัดเก็บภาษีเสาไฟฟ้าและการจัดเก็บภาษีโรงแรมเพิ่มเติม เพื่อเป็นรายได้ให้กับ กทม.

สำหรับการป้องกันน้ำท่วม เห็นด้วยกับการลอกท่อระบายน้ำโดยกรมราชทัณฑ์ แต่หลายเขตยังไม่มีการเซ็นสัญญาว่าจ้างกับกรมราชทัณฑ์แต่อย่างใด บางพื้นที่กรมราชทัณฑ์ดำเนินการล่าช้า ในขณะที่ใกล้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เนื่องจากเป็นนโยบายของคณะผู้บริหาร เขตจึงไม่ได้ใช้วิธีการจ้างรูปแบบอื่น หากเปิดโอกาสให้เขตใช้วิธีอื่นการทำงานคาดว่าจะเร็วขึ้น หรืออนุมัติให้เขตจัดซื้อรถดูดเลนลอกท่อ ซึ่งจะประหยัดแรงงาน สามารถย่นระยะเวลา และมีความคุ้มค่ามากกว่า รวมถึงได้ตั้งข้อสังเกตว่าหลายหน่วยงานมีงบประมาณประจำปีอยู่แล้ว แต่บางหน่วยงานดำเนินการล่าช้า บางครั้งต้องยกเลิกแต่กลับมาของบประมาณเพิ่มเติมเข้ามาอีกครั้ง จึงขอให้คณะกรรมการวิสามัญต้องพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย

ผ่านงบฯ 10,000 ล้านวาระแรก

ที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบรับหลักการแห่งร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พ.ศ. …  และให้แต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ 35 ท่าน กำหนดการแปรญัตติภายใน 7 วันทำการ และจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน (นับจากวันที่สภารับร่างข้อบัญญัติฯ เป็นครั้งแรก) คือภายในวันที่ 5 เม.ย. 2566