กรีนพีซ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์เสนอแนะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านร่างกฎหมายการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ จากกรณีโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้
วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 กรีนพีซ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เรื่อง อุบัติภัยอุตสาหกรรมในเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ และความจำเป็นของกฏหมาย PRTR ในประเทศไทย ความว่า
- เปิดประวัติ 6 รัฐมนตรีใหม่ เศรษฐา 1/1 พิชัย-พิชิต-เผ่าภูมิ-จิราพร-อรรถกร-สุชาติ
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
กรณีเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ในช่วงดึกของวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จากรายงานข่าว เปลวไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงพุ่งสู่ท้องฟ้ามองเห็นได้ในระยะไกล มีการระเบิดเป็นระยะ ๆ แรงอัดจากการระเบิดทำให้อาคารบ้านเรือนที่อยู่โดยรอบได้รับความเสียหาย และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ต่อมาในช่วงเช้า
เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สั่งอพยพประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงในรัศมี 5 กิโลเมตรจากโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ต่อมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ออกคำสั่งสำรวจสาเหตุของอุบัติภัยครั้งนี้ และมีมาตรการดูแลประชาชนเบื้องต้น รวมถึงศึกษาการปนเปื้อนสารมลพิษในสิ่งแวดล้อม และผลกระทบอื่น ๆ
ธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการ กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นอีกครั้งหนึ่งในจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนที่สังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนโดยรอบโรงงานอุตสาหกรรม ต้องเผชิญกับอุบัติภัยสารเคมีร้ายแรงที่ต้องบันทึกลงฐานข้อมูลอันยาวเหยียดของความเสี่ยงภัยทางอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะ ในจังหวัดสมุทรปราการซึ่งรัฐบาลประกาศให้เป็นเขตควบคุมมลพิษมาตั้งแต่ปี 2537”
อนึ่ง โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อยู่ในเครืออุตสาหกรรม Ming Dih Group Corporation จากไต้หวัน โดยเป็นฐานการผลิตโฟม EPS (Expandable Polystyrene) [1] กำลังการผลิต 30,000 ตันต่อปี เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2541[2] ข้อมูลจากชุดปฏิบัติการฉุกเฉิน กรมควบคุมมลพิษที่เข้าตรวจสอบค่าสารมลพิษในพื้นที่เกิดเหตุระบุว่า สารเคมีที่ถูกไฟไหม้คือสไตรีนโมโนเมอร์
ก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งเมื่อมีการเผาไหม้ หากสูดดมจะมีผลต่อร่างกายและระบบประสาท อาการเบื้องต้นคือ ปวดหัว มึน ระคายเคืองต่อผิวหนัง แสบตาหากได้รับในปริมาณสูงอาจจะชักและเสียชีวิต การหายใจเข้าไปในระยะนาน ๆ แม้ว่าความเข้มข้นต่ำจะทำให้อาจมีอาการทางสายตา การได้ยินเสื่อมลงและการตอบสนองช้าลง
ธารา บัวคำศรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรการของกรมควบคุมมลพิษและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการบรรเทาและเยียวผลกระทบเฉพาะหน้านั้นยังไม่เพียงพอ และไม่มีอะไรรับประกันว่าชุมชนและสังคมไทยโดยรวมจะไม่เผชิญกับผลกระทบจากอุบัติภัยทางอุตสาหกรรมซ้ำซากเช่นนี้อีก
สิ่งที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้คือ การผ่านร่างกฎหมายการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Registers-PRTR) เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในทันที”
หลายประเทศทั่วโลกออกกฎหมายและนำเอา PRTR [3] ไปประยุกต์ใช้ ประโยชน์ของ PRTR เป็นที่ยอมรับทั้งจากหน่วยงานรัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ในการเป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อม รวมถึง :
- กำหนดแนวทางวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษ
- ติดตามตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมาย การวางแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน
- การลดใช้สารเคมีเป็นพิษในกระบวนการผลิตและการลดการปล่อยมลพิษจากโรงงาน
- ความปลอดภัยด้านสารเคมีของผู้ประกอบการและคนงาน
- การมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหามลพิษร่วมกับหน่วยงานรัฐ
- การเข้าถึงข้อมูลการจัดการสารเคมีเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันตนเองจากมลพิษ
- เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับพนักงานดับเพลิง โรงพยาบาล ตำรวจ หน่วยกู้ภัย หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเมื่อเกิดอุบัติภัยสารเคมี
ธารากล่าวปิดท้ายว่า “เราต้องเจอกับการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่ามานานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่ผู้กำหนดนโยบายทั้งหลายต้องรับรองกฎหมาย PRTR ที่ก้าวหน้าเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนเป็นธรรมและการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม”