ศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว ลูกน้องอดีตผู้กำกับโจ้ทั้ง 5 คน

ศาลยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว ลูกน้องอดีตผู้กำกับโจ้ทั้ง 5 คน ชี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง หวั่นหลบหนี

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อดีต รอง สว.(ป.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้หลบหนี หลังมีพฤติการณ์ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยการทรมาน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนถึงแก่ชีวิต

ผู้กำกับโจ้ซูบหนัก ยันไม่ได้เรียก 2 ล้าน ผบ.ตร.แถลงข่าวจับกุม 3 ทุ่มคืนนี้

ต่อมา เวลา 18.45 น. ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้กำกับโจ้ได้แล้ว ขณะหลบหนีอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ก่อนนำตัวกลับมาสอบสวน และถึงที่กองบังคับการปราบปราบแล้ว

จากการสอบปากคำผู้กำกับโจ้ ยืนยันว่าไม่ได้เรียกเงิน 2 ล้านบาทจากผู้ต้องหา เพียงแต่ต้องการถามหายาเสพติดเท่านั้น พร้อมขอโทษที่ทำให้ตำรวจภาพลักษณ์เสียหาย และเผยด้วยว่า ไม่มีใครพาหลบหนี แค่ตกใจเลยกลับไปตั้งหลัก

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถตามจับกุมตัว ร.ต.ท.ธรณินทร์ ลูกน้องอดีตผู้กำกับโจ้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาอีกราย ภายหลังหลบหนีไปกบดานยัง จ.เพชรบุรี โดยทีมสืบสวนได้ควบคุมตัวมายัง จ.นครสวรรค์ เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม ทำให้ตอนนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมตัวแล้ว

ล่าสุด มติชน รายงานว่า ในส่วนสำนวนคดี ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาเร็ว ผตห.ที่ 4 ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ ฝ.อท.5/2564 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเพียงคนเดียว ด้วยเงินสด 900,000 บาท ส่วน พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ผตห.ที่ 1 ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ผตห.ที่ 2 ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผตห.ที่ 3 ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ ฝ.อท.5/2564 และ ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผตห.ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ ฝ.อท.4/2564

โดยศาลจังหวัดนครสวรรค์ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา ประกอบพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง ลักษณะการกระทำเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว หากให้ปล่อยชั่วคราวเชื่อว่าจะหลบหนี จึงไม่มีเหตุสมควรให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง

เวลา 21.30 พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้แถลงขอโทษประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง จากนั้นให้ผู้กำกับโจ้โฟนอินคำถามผู้สื่อข่าว ซึ่งได้อธิบายเหตุการณ์วันดังกล่าวเห็นว่าเป็นคดีใหญ่ เลยลงไปดู และต้องการรีดข้อมูลยาเสพติดเท่านั้น ไม่มีการรีดทรัพย์ ไม่มีเจตนาฆ่าน้อง ผมยอมรับผิดสิ่งที่เกิดขึ้น