MFEC ชูโซลูชั่นไอทีตอบโจทย์ธุรกิจ-ฟื้นเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยี

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร

MFEC ผนึกบริษัทในเครือ ชูกลยุทธ์ผสานโซลูชั่นไอที ยกระดับมาตรฐานบริการตอบโจทย์ลูกค้าภาคธุรกิจรับมือคลื่นความเปลี่ยนแปลง ตั้งเป้าฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี

วันที่ 29 มีนาคม 2567 บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC จัดงาน MFEC Inspire – Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage ตั้งเป้าฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี ชูกลยุทธ์ผสานโซลูชั่นไอที

พร้อมเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถ และยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีผ่านการร่วมมือกับบริษัทในเครือภายใต้แนวคิดในการผนวกจุดแข็งแต่ละหน่วยธุรกิจในการออกแบบโซลูชั่นไอที และสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ควบคุมและแก้ไขปัญหาที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้ทุกมิติ เพื่อให้ภาคธุรกิจพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนทางด้านไอทีมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 100% พุ่งสูงกว่ากำไรสุทธิ  สาเหตุเกิดจาก Product Vendor ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องมากถึง 40% ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 200-300% ในซอฟต์แวร์หลายตัว และการที่ธุรกิจส่วนใหญ่หันมาใช้ Cloud

ภายใต้จุดประสงค์ในการลดต้นทุนแต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับตรงกันข้าม เนื่องจากต้นทุนที่แพงขึ้นจากต้นทุนแฝง เช่น ค่าใช้จ่ายในการ subscription ที่ขึ้นทุกปี รวมไปถึงกระแสการใช้ AI ในปัจจุบันที่กำลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในกระบวนการของ AI ทั้งหมดไม่มีประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์จำยอมเมื่อมีการปรับขึ้นราคาหรือปิดกั้นการใช้งาน และนี่เป็นสัญญาณให้องค์กรธุรกิจตื่นตัวในการหาโซลูชั่นเพื่อปลดล็อกจากพันธนาการเหล่านี้ด้วย Realtime Connected Data, Data Strategy และ People

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร

“ด้วยประสบการณ์กว่า 27 ปีในวงการไอที เราเห็นถึงจุดย้อนศรของราคาต้นทุนของ Technology และ Net Profit ที่ลูกค้าได้ยังสวนทางกันอยู่ ขณะที่ต้นทุนสูงขึ้น แต่กำไรไม่สูงตาม ทำให้ต้องเร่งหาโซลูชั่นที่จะช่วยลูกค้าลด IT Cost ด้วยการออกแบบโซลูชั่นและกระบวนการลดต้นทุน รวมถึงการนำ Generative AI หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยยกระดับความสามารถขององค์กรได้ การให้องค์กรเข้าถึง Gen AI ในวงกว้าง นำไปสู่ความสามารถอย่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดียิ่งขึ้น”

ปัจจุบัน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สร้างความท้าทายให้องค์กรธุรกิจในการก้าวให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ผนวกกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจที่ผลักดันไปสู่การวางกลยุทธ์และกระบวนการที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพหรือประสิทธิภาพขององค์กร และมีเป้าหมายในการประหยัดพลังงานเพื่อความยั่งยืน ส่งผลให้องค์กรธุรกิจมองหาโซลูชั่นที่ช่วยลดต้นทุนด้วยแพลตฟอร์มที่พร้อมใช้งาน

MFEC ดำเนินธุรกิจด้วย Purpose-Driven Business การมองภาพรวมการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไอทีระดับโลก สะท้อนกลับมาในภาพของประเทศไทยให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของ MFEC โดยที่จะต้องตระหนักถึงการแก้ปัญหาให้ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ Purpose-Driven Business อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการเลือกสรรเทคโนโลยี ผ่าน 3 Core Solution ประกอบไปด้วย

Cost Optimization : ออกแบบกลยุทธ์และกระบวนการที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพหรือประสิทธิภาพขององค์กร เป้าหมายหลักคือเพื่อเพิ่มผลกำไรและสร้าง Shareholder Value สำหรับด้าน

Generative Al : กระบวนการที่องค์กรนำไปใช้เพื่อผนวกรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับกลยุทธ์และการดำเนินงาน คือเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มผลกำไรต่อธุรกิจ

Sustainability :  พร้อมตัวช่วยมองหาเงินสนับสนุนใหม่ ๆ จากนักลงทุน เพื่อความยั่งยืนแก่ธุรกิจของลูกค้า โดย MFEC และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ พร้อมนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ตรงประเด็นและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า จึงได้รวบรวมสถานการณ์ปัญหาจริงที่เกิดขึ้นกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศไทยนำมาออกแบบผ่าน 3 Core Solution อย่าง Cost Optimization, Generative AI และ Sustainability เพื่อหาแนวทางที่สามารถแก้ปัญหาได้จริงอย่างยั่งยืน

ภายในงาน MFEC Inspire – Transforming IT Challenges into Future Competitive Advantage นอกจากจะได้รวบรวมและออกแบบ 3 Core Solution อย่าง Cost Optimization, Generative AI และ Sustainability แล้ว ในงานยังมี AI Transformation Club – Networking Club

สำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนา AI แต่มีทรัพยากรจำกัด โดยจะรวบรวมความเชี่ยวชาญขององค์กรต่าง ๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนา AI ได้ถึง 10 เท่า โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลงกว่า 90%

นายศิริวัฒน์กล่าวต่อว่า MFEC ในฐานะผู้นำตลาดไอทีของไทยวางแผนที่จะต่อยอดธุรกิจผ่านโซลูชั่นทั้งหมดที่ถูกนำเสนอในงาน เริ่มจากพื้นฐานประสบการณ์ของ MFEC บริษัทในเครือและพันธมิตรคู่ค้า

ผนวกกับข้อมูลปัญหาและโซลูชั่นจากลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร โทรคมนาคม ด้านพลังงาน และสาธารณูปโภค นำมาบูรณาการและวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและพิสูจน์แล้วว่าสามารถแก้ปัญหาได้จริง โดยตั้งเป้าฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับรากฐานอย่าง Infrastructure จนถึงระดับ Cloud Technology