เทคซอส เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ เสริมทัพธุรกิจสตาร์ตอัพ

เทคซอส เสริมทัพธุรกิจสตาร์ตอัพ เปิดแพลตฟอร์มรวบรวมสถิติการระดมทุน “Startup Directory” และแพลตฟอร์มเรียนรู้ “ConNEXT” อัปสกิลคนรุ่นใหม่ ป้อนตลาดแรงงาน 1 ล้านคน

วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 นางสาวอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด กล่าวว่า เทคซอสต้องการก้าวสู่การเป็น “Tech Knowledge Sharing Platform” แพลตฟอร์มที่รวบรวมคอนเทนต์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

รวมถึงฐานข้อมูลสตาร์ตอัพไทยสำหรับนักลงทุนทั้งในต่างประทเศ เพื่อขับเคลื่อนไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะกลายเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตทางด้านเทคโนโลยีและสตาร์ตอัพต่อจากประเทศจีน

ล่าสุด เทคซอส ได้เปิดตัว 3 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจทรานส์ฟอร์เมชั่น สนับสนุนและทำงานกับองค์กรในไทย ทั้งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทข้ามชาติ และภาครัฐ ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ การพัฒนาอัปสกิล รีสกิล และการร่วมสร้างนวัตกรรมในองค์กร เช่น Venture Builder, Workshop และกิจกรรมระดมความคิดผ่านกระบวนการ Hackathon เป็นต้น โดยจับมือกับพาร์ทเนอร์บริษัทเทคโนโลยีกว่า 10,000 บริษัททั่วโลก เพื่อช่วยจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ให้กับธุรกิจไทยอีกด้วย

แพลตฟอร์ม Techsauce Startup Directory รวบรวมสถิติการระดมทุนระหว่าง Startup และ Investor ทั้งหมดของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2558-ปัจจุบัน จากหน่วยงานในไทยและต่างประเทศ พร้อมอัปเดตข้อมูลเป็นรายอุตสาหกรรมและ Stage การระดมทุนแบบเรียลไทม์ทุกวัน เพื่อให้นักลงทุนและผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์ได้ และแพลตฟอร์ม ConNEXT ที่จะเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่ พัฒนาทักษะทั้งกระบวนการคิด ทักษะจำเป็น

เช่น Marketing Data Analytics ผ่านผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา รวมถึงรวบรวมตำแหน่งงาน และความรู้ทางด้านเทคโนโลยีมาไว้ในแพลตฟอร์ม ตั้งเป้าป้อนคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสู่ตลาดแรงงาน 1,000,000 คนภายในปี 2568

“กระแสสตาร์ตอัพเริ่มจางลง เพราะไทยยังไม่มีแหล่งรวมยูสเคสที่ประสบความสำเร็จ เทคซอสจึงสร้าง 2 แพลตฟอร์มนี้ขึ้น เพื่อเป็นสะพานเชื่อมให้สตาร์ตอัพไทยและนักลงทุนต่างชาติได้เจอกัน รวมถึงเชื่อมองค์กรขนาดใหญ่ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่ต้องการลงทุนด้านเทคโนโลยีให้เจอกับเทคสตาร์ตอัพ เป้าหมายสำคัญคือ การยกระดับให้เติบโตสู่ระดับภูมิภาค สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 845 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี”