JMART ผนึกดีลเลอร์เครื่องใช้ไฟฟ้า พลิกเกมเสริมพอร์ตบุกตลาดทั่วปท.

JMART ประกาศจัดตั้ง Jaydee Group ร่วมกับพาร์9เนอร์ดีลเลอร์ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า เดินหน้าเจาะตลาดหัวเมืองใหญ่ทั้งมนกรุงเทพฯและต่างจังหวัดทั่วประเทศ หวังดึงพลังซินเนอร์ยีทั้งด้านการตลาด การเงิน และเทคโนโลยี เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันตั้งเป้ารายได้ปีแรก1,000 ล้านบาท กำไร 50ล้านบาท

วันที่ 10 กุมภาพันธ์  2565 นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จากัด (มหาชน) (JMART) เปิดเผยว่า JMART ได้ประกาศตั้ง บริษัท เจ ดี กรุ๊ป จำกัด (Jaydee Group) ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการดีลเลอร์ ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ มาร่วมเสริมอีโคซิสเต็มของกลุ่มเจมาร์ทให้ครบวงจรและปลุกตลาดค้าปลีกตามหัวเมืองต่างจังหวัด ผ่านฐานลูกค้าของดีลเลอร์ทั้งในรูปแบบเงินสดและเงินผ่อน

โดยจะนำความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่กลุ่มเจมาร์ทมี อาทิ ด้านการตลาด การเงิน และเทคโนโลยีเข้ามาผลักดันธุรกิจและสร้างการเติบโตร่วมกัน ยกตัวอย่างด้านสินเชื่อ KB J และ SINGER รวมถึงเทคโนโลยีจากเจเวนเจอร์ส์ผ่านแพลตฟอร์ม JID เป็นต้น

“เรามองเห็นศักยภาพการลงทุนครั้งนี้ ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบมาปฏิวัติอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยหนีการดิสรัปชั่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคค และเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าตามหัวเมืองทั่วประเทศ ให้ทันสมัยด้วย เทคโนโลยี”

ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางการค้าเพื่อซินเนอร์ยีร่วมกัน อาทิ การนำผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ ผลิตภัณฑ์ Solar Rooftop จาก JV Gunkul และสินค้าเทคโนโลยีของเจมาร์ทเข้ามาจัดจำหน่ายในร้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าได้เพิ่มเติม ทำให้การกระจายสินค้าครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกช่องทางมากยิ่งขึ้น พร้อมบริการด้านการเงิน ทั้งสินเชื่อของ KBJ ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้, สินค้าและสินเชื่อเงินผ่อนของ SINGER รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านประกันในกลุ่มเจมาร์ทเข้ามาต่อยอดการเติบโต

ด้านนายยงยุทธ เตชะเศรษฐธนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ ดี กรุ๊ป จากัด เปิดเผยว่า มีดีลเลอร์เครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 8 ราย เข้าร่วมด้วย ได้แก่ บริษัท กู๊ดดีล คอร์ปอเรชั่น, บริษัท มัลติ โปร เซ็นเตอร์, บริษัท พูนสิน,บริษัท เดอะเกรท อิเลคทริค ซิตี้,บริษัท เดอะเบสท์วัน ระยอง,บริษัท นคร ดี ซี, บริษัท สงวนพาณิชย์ เอวี และ หจก.สุรินทร์ มีสาขารวมกัน 14 แห่ง ซึ่งจะปรับโฉมเป็น JAYDEE ทั้งหมดและขยายเป็น 100 สาขาภายในสิ้นปี พร้อมตั้งเป้า 3 ปี โดยปีแรกจะมีรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท เพิ่มเป็น 1,800 ล้านบาท กำไร 100 ล้านบาท และรายได้ 3,500 ล้านบาท กำไร 300 ล้านบาทในปี 2567

“การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมามีค่อนข้างมาก สิ่งที่ดีลเลอร์มีคือฐานลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่เราจะต้องขยาย Ecosystem ให้พันธมิตรดีลเลอร์ ให้เติบโตกว่านี้ ให้ได้ เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งค้าปลีกอื่นๆ โดยตลาดที่ Jay Dee Group เน้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าตามหัวเมืองในต่างจังหวัด ซึ่งจะยิ่งไปเสริมโมเดลธุรกิจ ของ Singer ให้เติบโตไปพร้อมกัน”

สำหรับ Jay Dee Group มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท จะเพิ่มทุนเป็น 300 ล้านบาทภายใน 3-6 เดือนต่อจากนี้ โดยมีเจมาร์ทถือหุ้นในสัดส่วน 24.9%