เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
หน้าแรก เศรษฐกิจภูมิภาค ผู้ว่าฯขอนแก่...

ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งปิด “ร้านสุขสันต์ขอนแก่น” 5 ปี เซ่นปม สมรักษ์-เด็กอายุ 17 ปี

ผู้ว่าฯจังหวัดขอนแก่น ประกาศสั่งปิด “ร้านสุขสันต์ขอนแก่น” 5 ปี เซ่นปม สมรักษ์ คำสิงห์-เด็กอายุ 17 ปี ชี้ทางร้านเจตนาจงใจให้เยาวชนเข้าสถานบริการ และเปิดทำการเกินกว่าเวลา

วันที่ 5 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวาน (4 ม.ค.) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ออกประกาศคำสั่งเรื่อง สั่งปิดสถานบริการชื่อ “สุขสันต์ขอนแก่น” ตั้งอยู่เลขที่ 212 ถนนประชาสำราญ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

โดยในหนังสือระบุว่า ด้วยจังหวัดขอนแก่นได้รับรายงานจากอำเภอเมืองขอนแก่นว่ามีเยาวชนอายุประมาณ 17 ปี เข้าไปใช้บริการสถานบริการชื่อ “สุขสันต์ขอนแก่น” ตั้งอยู่ถนนประชาสำราญ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

และถูกบุคคลพาไปโรงแรมเพื่อการอนาจาร และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ดูแลสถานบริการชื่อ “สุขสันต์ขอนแก่น” โดยกล่าวหาว่า (1) เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ (2) เปิดทำการเกินกว่าเวลาที่มีกฎหมายบัญญัติ

จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้คู่กรณี ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการทราบและให้โอกาสโต้แย้งข้อเท็จจริงและแสดงพยานหลักฐานของตนก่อนการออกคำสั่งทางปกครอง โดยแจ้งให้แสดงพยานหลักฐานและข้อโต้แย้งหรือข้อเท็จจริงเป็นหนังสือยืนต่อจังหวัดขอนแก่นแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พิจารณาจากพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพิจารณาจากหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของคู่กรณีแล้ว เห็นว่า

1.ประเด็นข้อกล่าวหา “ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ” นั้น ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการมิได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้แต่อย่างใด โดยเพียงแต่อ้างว่าในคืนเกิดเหตุพนักงานรักษาความปลอดภัย (การ์ด) ที่ได้รับมอบหมายมีความบกพร่อง ประมาทเลินเล่อ ไม่ใส่ใจในหน้าที่รับผิดชอบ

ดังนั้น ประเด็นข้อกล่าวหานี้ จึงเห็นว่า ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการมีพฤติการณ์เปิดสถานบริการโดยยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการจริง

2.ประเด็นข้อกล่าวหา “เปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ” นั้น ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการมิได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้แต่อย่างใด โดยเพียงแต่อ้างว่าในคืนวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลร้านได้ให้ดีเจเปิดเพลงในระหว่างจะปิดร้านและจัดเก็บวัสดุอุปกรณ์

เนื่องจากเห็นว่ายังมีลูกค้าบางโต๊ะที่สั่งเครื่องดื่มและดื่มยังไม่หมดจนกระทั่งพนักงานจัดเก็บร้านแล้วเสร็จดังนั้น ประเด็นข้อกล่าวหานี้ จึงเห็นว่า ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการมีพฤติการณ์เปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติจริง

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พิจารณาจากพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและข้อชี้แจงโต้แย้งจากคู่กรณีแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 21.30 น. มีบุคคลอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ซึ่งเป็นเยาวชนได้เข้าไปใช้บริการสถานบริการ ชื่อ “สุขสันต์ขอนแก่น” ตั้งอยู่เลขที่ 212 ถนนประชาสำราญ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ เลขที่ 17/2566

ซึ่งก่อนเข้าร้านเยาวชนรายดังกล่าวได้ยื่นโทรศัพท์ที่บันทึกภาพ บัตรประจำตัวประชาชนของตนให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานบริการตรวจสอบ ปรากฏว่า พนักงานของสถานบริการดังกล่าวได้ใช้วิธีการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนจากภาพถ่าย โดยมิได้ตรวจสอบจากบัตรประจำตัวประชาชนที่เป็นเอกสารราชการ หรือตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชั่น ThaiD

อีกทั้งพนักงานของสถานบริการได้เห็นวัน เดือน และปีเกิด ของเยาวชนรายดังกล่าวแล้ว แต่ยังให้เยาวชนรายดังกล่าวเข้าไปใช้บริการภายในสถานบริการ ซึ่งถือเป็นความบกพร่องในการตรวจสอบอายุของผู้จะเข้าใช้บริการ จึงเป็นเหตุให้มีบุคคลอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ได้เข้าไปใช้บริการ อันแสดงให้เห็นว่าสถานบริการ ชื่อ ”สุขสันต์ขอนแก่น” มีเจตนาจงใจให้เยาวชนเข้าไปใช้บริการ

ขณะเดียวกันทางสถานบริการได้ขออนุญาตตั้งสถานบริการตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 3 (1) ปิดทำการเวลา 02.00 น. แต่ปรากฏว่า เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ปรากฏว่า สถานบริการดังกล่าวมิได้ปิดทำการภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด ยังคงปล่อยให้ผู้เข้าใช้บริการใช้บริการภายในร้านจนถึงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 10 ธันวาคม 2566 จึงถือเป็นพฤติการณ์เปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ

ดังนั้น จากพฤติการณ์ทั้งหมดข้างต้น จึงถือว่าสถานบริการดังกล่าวฝ่าฝืนข้อ 4 วรรคหนึ่ง (1) และ (3) ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายกับสถานบริการ ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 วรรคสอง

จึงสั่งปิดสถานบริการ ชื่อ “สุขสันต์ขอนแก่น” ตั้งอยู่เลขที่ 212 ถนนประชาสำราญ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ เลขที่ 17/2566

และห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวอีกเป็นเวลาห้าปี

ทั้งนี้ ผู้ใดเปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในสถานที่ดังกล่าวภายในระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่มีคำสั่งปิดตามข้อ 4 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตามนัยข้อ 6/1(1) ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 46/2559 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2558 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2559

อนึ่ง คำสั่งปิดสถานที่ให้เป็นที่สุด หากผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการชื่อ “สุขสันต์ขอนแก่น” ประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งนี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองขอนแก่นหรือส่งทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองขอนแก่น ภายใน 90 วัน

นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำสั่ง ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2567 สั่ง ณ 4 มกราคม 2567 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น