14 เอกชนซื้อซองประมูล 3 เขตเศรษฐกิจพิเศษไร้เงาทุนใหญ่

เชื่อม CLMV - กรมธนารักษ์เปิดขายซองประมูลสรรหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 3 จังหวัด คือนครพนม มุกดาหาร และหนองคาย ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สามารถเชื่อมโยงประเทศ CLMV

14 เอกชนรุกซื้อซองประมูล 3 เขตเศรษฐกิจพิเศษ “นครพนม 5-มุกดาหาร 5-หนองคาย 4” ไร้เงานักลงทุนรายใหญ่ ทุนท้องถิ่น “นครพนม” ชี้ค่าธรรมเนียม-ค่าเช่ายังสูง แนะควรลดรูปแบบเดียวกับ “มุกดาหาร-หนองคาย” ด้านธนารักษ์กำหนดยื่นซอง 15 ก.พ. 62

นางสาวอมรรัตน์ กล่ำพลบ รองอธิบดีด้านที่ราชพัสดุ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังกรมธนารักษ์เปิดขายซองประมูลเพื่อสรรหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) 3 พื้นที่ คือ นครพนม มุกดาหาร และหนองคาย ไปตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.-16 พ.ย. 2561 ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้สนใจเข้าซื้อซองประมูลรวม 13 ราย

โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนมมีผู้สนใจซื้อซองประมูลมากที่สุดจำนวน 5 ราย ขณะที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคายมีผู้สนใจซื้อซองประมูลจำนวน 4 ราย และเขตเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหารมีผู้สนใจซื้อซองประมูล 4 ราย ซึ่งทางกรมธนารักษ์จะให้ยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562

“เท่าที่ได้รับรายงาน ผู้ซื้อซองประมูลเป็นบริษัทที่ไม่ได้มีชื่อเป็นที่รู้จักมากนัก ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแต่ละบริษัททำธุรกิจหรือมีประสบการณ์อย่างไรบ้าง ทั้งนี้ การเปิดประมูลรอบนี้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) พยายามจูงใจนักลงทุนมากขึ้น โดยมีการคิดอัตราค่าเช่าที่ถูกลงมาก เนื่องจากทั้ง 3 จังหวัดมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่สามารถเชื่อมโยงกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)” นางสาวอมรรัตน์กล่าว

นายมนตรี บุญญาพงษ์พันธ์ ธนารักษ์พื้นที่มุกดาหาร เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีผู้มาซื้อซองประมูลทั้งหมด 5 ราย โดยซื้อซองที่ส่วนกลาง 4 ราย และในพื้นที่อีก 1 ราย โดยคาดว่าเป็นทุนท้องถิ่นมุกดาหาร 2 ราย และทุนส่วนกลาง 3 ราย ขั้นตอนต่อไปทางผู้ซื้อซองจะไปทำแผนงานโครงการโมเดลศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และทำรูปแบบว่าจะลงทุนอย่างไร หลังการยื่นซองจะมีคณะกรรมการพิจารณาอีกครั้ง

“รอบที่แล้วนักลงทุนมีความเห็นว่าค่าเช่าเป็นต้นทุนที่สูง ความเป็นไปได้ทางการเงินไม่คุ้มค่ากับการลงทุน มีผู้มาซื้อซองประมาณ 10 กว่าราย แต่ไม่มีใครมายื่นซอง กรมธนารักษ์จึงลดค่าเช่ามาเพื่อให้นักธุรกิจมาลงทุนในพื้นที่ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ มองว่าครั้งนี้น่าจะมีคนยื่น เพราะมีนักลงทุนติดต่อมาหลายราย ถ้านักลงทุนศึกษาโครงการและทำโครงการให้มีความเป็นไปได้ทางการเงิน ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ทั้งประปาและไฟฟ้าพร้อมมาอยู่หน้าโครงการแล้ว รวมถึงมีโครงการออกแบบขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจรแล้ว มองว่าต่อไปเศรษฐกิจจะเป็นขาขึ้น” นายมนตรีกล่าว

นายธนโชติ โชติบุณยศักดิ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ผู้ซื้อซองทั้ง 5 รายจะเดินทางไปบริเวณที่ดินเขตเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร บนพื้นที่ 1,081 ไร่ โดยธนารักษ์พื้นที่มุกดาหารจะพาไปดู และอาจจะมีการเปิดห้องให้ผู้ซื้อซองได้ซักถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ที่สงสัย เช่น โครงการพื้นฐาน หลักเกณฑ์ต่าง ๆ สภาพเศรษฐกิจทั่วไป เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ว่าเมื่อลงทุนและพัฒนาที่ดินแล้วจะเหลือที่ดินขายเท่าไหร่ คุ้มค่าหรือไม่ เนื่องจากต้องแบ่งไว้สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาพัฒนาที่ดินอย่างน้อย 3 ปี

ด้านนายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีผู้ซื้อซองกี่ราย แต่มั่นใจว่าไม่มีนักลงทุนท้องถิ่นแน่นอน เพราะทีโออาร์ที่กรมธนารักษ์ตั้งขึ้นมาราคาค่าเช่าและค่าธรรมเนียมยังสูงเกินไป นักลงทุนท้องถิ่นไม่มีเงินทุนเพียงพอในการลงทุน แต่หากมีการแบ่งย่อยพื้นที่ออกมาน่าจะดี ทั้งนี้ อยากให้กรมธนารักษ์ลดค่าเช่า ค่าธรรมเนียมลงมาเท่ากับจังหวัดมุกดาหารและหนองคาย ซึ่งที่ผ่านมาทางหอการค้าจังหวัดได้ยื่นขอลดค่าธรรมเนียมและค่าเช่าต่อกรมธนารักษ์ โดยมั่นใจว่าถ้าลดลงนักลงทุนท้องถิ่นพร้อมเข้ามาดำเนินการ แต่กรมยืนยันว่าเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว

อนึ่ง พื้นที่ SEZ ทั้ง 3 จังหวัดประกอบด้วย 1.นครพนม ที่ผ่านมาเปิดประมูลมาแล้ว 1 ครั้ง ค่าเช่าไร่ละ 8,400 บาทต่อไร่ต่อปี ค่าเช่าอยู่ที่ 9% ทุก 3 ปี ค่าธรรมเนียมการเช่า 140,000 บาทต่อไร่ ระยะเวลาเช่า 50 ปี อัตราค่าเช่าเนื้อที่ประมูลทั้งแปลง 11,453,759.10 บาทต่อไร่ต่อปี และค่าธรรมเนียมการเช่าทั้งแปลงขั้นต่ำในการเปิดประมูลจำนวน 190,895,985 บาท

2.มุกดาหาร ที่ผ่านมาเปิดประมูลมาแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดปรับลดค่าเช่าลงมาเหลือ 1,800 บาทต่อไร่ต่อปี ปรับปรุงค่าเช่าอยู่ที่ 9% ทุก 3 ปี ค่าธรรมเนียมการเช่า 30,000 บาทต่อไร่ ระยะเวลาเช่า 50 ปี อัตราค่าเช่าเนื้อที่ประมูลทั้งแปลงจำนวน 1,945,903.95 บาทต่อไร่ต่อปี และค่าธรรมเนียมการเช่าทั้งแปลงขั้นต่ำในการเปิดประมูลจำนวน 32,431,732.50 บาท

3.หนองคาย ที่ผ่านมาเปิดประมูลมาแล้ว 1 ครั้ง ล่าสุดปรับลดค่าเช่าลงมาเหลือ 2,100 บาทต่อไร่ต่อปี ปรับปรุงค่าเช่าอยู่ที่ 9% ทุก 3 ปี ค่าธรรมเนียมการเช่า 35,000 บาทต่อไร่ ระยะเวลาเช่า 50 ปี อัตราค่าเช่าเนื้อที่ประมูลทั้งแปลงจำนวน 1,508,041.50 บาทต่อไร่ต่อปี และค่าธรรมเนียมการเช่าทั้งแปลงขั้นต่ำในการเปิดประมูลจำนวน 25,134,025 บาท