เชียงดาวร้อนระอุ Hotspot พุ่ง 32 จุด รุกแผน “Set Zero” แก้ PM2.5 เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนยังรุนแรงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 2 เดือน วันนี้ (9 มีนาคม 2563) คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะค่า PM 2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ พุ่งสูงสุดถึง 94.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 171 ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน

ทั้งนี้ ภายหลังจากนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ (ส่วนหน้า) ในค่ายพิชิตปรีชากร กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว เพื่อเตรียมปฏิบัติการ “Set Zero” ในวันที่ 9 – 10 มีนาคมนี้ โดยจะระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ประกอบด้วย กำลังทหาร เหยี่ยวไฟ เสือไฟ เจ้าหน้าที่ปกครอง ชุดปฏิบัติการดับไฟจาก อบจ.เชียงใหม่ อปพร. ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกิดไฟ สนธิกำลังเข้าไปดับไฟใน 4 พื้นที่

พ.อ.กฤติ พันธะสา เลขานุการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้สั่งการให้ ร.อ.นัฐพงษ์ สมัครการ และ ร.อ.ประพันธ์ ชาติไทย นักบิน นำเครื่องบินฝึกแบบ 41 หรือ บ.ฝ.41 บินลาดตระเวนตรวจจุดความร้อนในพื้นที่ที่เกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควัน  พร้อมนายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ ประธานชมรมร่มบินเชียงใหม่และ นายพิเชษฐ์ ตันติโรจนกุลช่างภาพจิตอาสาภาคประชาชน ในเส้นทางบินเชียงใหม่ – อ.แม่ริม – อ.แม่แตง – อ.เชียงดาว – อ.ไชยปราการ – อ.พร้าว – อ.สันทราย อ.ดอยสะเก็ด – สนามบินเชียงใหม่

โดยเฉพาะอำเภอเชียงดาวซึ่งเป็นเป็นพื้นที่เป้าหมาย เช้านี้พบว่ามีจุดความร้อนจำนวน 32 จุด ซึ่งถือว่ามากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันได้รับการสนับสนุนกำลังพลจากหน่วยงานต่างๆเพื่อเข้าดับไฟ ประกอบด้วย ทหาร สังกัด มทบ.33 จำนวน 70 นาย ทหารพราน สังกัด ทพ.32 จำนวน 21 นาย เหยี่ยวไฟ สังกัด กรมป่าไม้ จำนวน 100 นาย เสือไฟ สังกัดกรมอุทยาน จำนวน 30 นาย (+เสือไฟเฉพาะกิจ 50 นาย) รวม 80 นาย และจิตอาสาภัยพิบัติชมรมเอ็นดูโร่เชียงดาว 20 นาย พร้อมรถมอเตอร์ไซค์วิบาก รวมทั้งสิ้น 291 นาย