“อัคระคีรี” เจาะเทรนด์สุขภาพสู้วิกฤต พลิก 80 ไร่ปั้นบ้านดิน-ออร์แกนิกฟาร์ม

“อัคระคีรี” รีสอร์ตที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบดอย ตำบลสะเมิงเหนือ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ มีตัวเลขรายได้เป็นศูนย์ ในช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่เกิดการระบาดของโควิด-19

ส่งผลกระทบอย่างหนักแต่ธุรกิจยังต้องไปต่อ “การปรับตัว” ลุกขึ้นสู้เท่านั้นจึงจะอยู่รอด และท่ามกลางวิถี “นิวนอร์มอล” ที่นักท่องเที่ยวมุ่งสู่เทรนด์ “สุขภาพ” กันมากขึ้น “อัคระคีรี” จะปรับตัวพลิกวิกฤตอย่างไร

บุญหลาย คมวชิรกุล ผู้จัดการ อัคระคีรี ออร์แกนิกฟาร์ม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้รับผลกระทบหนักที่สุดเกือบ 2 ปีที่เกิดการระบาดของโควิด-19 มีรายได้เป็นศูนย์ ต้องเลิกจ้างพนักงานจากทั้งหมด 12 คน เหลือเพียง 5 คน

ขณะที่เจ้าของ “อัคระคีรี” ซึ่งอยู่กรุงเทพฯ ก็ได้รับผลกระทบโควิด-19จากการทำธุรกิจโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง ทำให้ไม่มีเงินทุนมาสนับสนุนโครงการ จึงขอให้พนักงานช่วยกันดูแลโครงการ-หารายได้เลี้ยงตัวเองไปก่อน โดยสนับสนุนเงินเพียงบางส่วน จนกว่าสถานการณ์ทางการเงินจะดีขึ้น

“แม้จะเป็นโจทย์ที่ดูเหมือนยาก แต่เพื่อความอยู่รอดของโครงการและพนักงานทุกคน เราต้องปรับตัวและลุกขึ้นสู้กับวิกฤต โดยมุ่งสู่เทรนด์ให้สุขภาพ สร้างจุดขายใหม่ให้อัคระคีรีเป็นที่พักสไตล์ออร์แกนิกฟาร์ม”

บุญหลายบอกว่า ที่พักบ้านดิน ที่เจ้าของโครงการลงทุนสร้างไว้จำนวน 10 หลังก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยบ้านดินทั้ง 10 หลังทำมาจากดินและวัสดุจากธรรมชาติ ช่วยปรับสภาพอากาศ หากอากาศภายนอกร้อน บ้านดินจะทำให้รู้สึกเย็น

และหากอากาศภายนอกเย็น บ้านดินก็จะทำให้รู้สึกอบอุ่น พร้อมแวดล้อมด้วยเกษตรธรรมชาติออร์แกนิก ทั้งทุ่งนา สวนสตรอว์เบอรี่ สวนมะม่วง แปลงผัก ฯลฯ เป็นบ้านดินที่มีดีไซน์เรียบง่าย ใช้พื้นปูนขัดมัน ตกแต่งภายในแบบโมเดิร์นมินิมอล

ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ งานโชว์โครงสร้างไม้ไผ่ สะท้อนความร่วมสมัย มีความเป็นส่วนตัว และห้องน้ำสไตล์ธรรมชาติแบบเปิดโล่งราคาบ้านหลังละ 1,500 บาทต่อคืน และหลังใหญ่ 2,500 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้า

“อาหารทุกอย่างที่เราทำให้ลูกค้า ใช้วัตถุดิบที่ผลิตเอง ปลอดภัย ทั้งพืชผัก ผลไม้ มีข้าวไรซ์เบอรี่ ไข่ไก่ ที่เป็นออร์แกนิก 100% ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากกรมวิชาการเกษตร หรือลูกค้าอยากรับประทานเมนูอะไร สามารถเก็บผักในแปลงมาทำได้”

บุญหลายบอกต่อว่า ผลผลิตทางการเกษตรภายในโครงการอัคระคีรี ออร์แกนิกฟาร์ม นอกจากผลิตเพื่อรองรับลูกค้าที่มาพักแล้ว ยังนำออกขายสู่ภายนอกด้วย เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในโครงการ และเป็นเงินเดือนพนักงาน มีตลาดรับซื้อสินค้าทั้งในเชียงใหม่และกรุงเทพฯ ขายผ่านทางออนไลน์เป็นหลัก มีรถตู้เย็นขนส่งมารับถึงหน้าฟาร์ม

โดยมีสินค้าหลัก ๆ ได้แก่ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวดอย ข้าวเหนียวลืมผัว ซึ่งมีแปลงปลูกราว 3 ไร่ มีโรงสีข้าวขนาดเล็กสำหรับสีข้าว ไห้ผลผลิตประมาณ 500-600 กิโลกรัม ส่วนกลุ่มพืชผักมีหลากหลายชนิด

อาทิ ผักกวางตุ้ง คะน้า ผักกาดขาว สลัดแก้ว สลัดคอส วอเตอร์เครส ผักชี ผักชีฝรั่ง จิงจูฉ่าย ผักบุ้ง มะเขือเทศ ผักสวนครัว

กลุ่มผลไม้ มีสวนสตรอว์เบอรี่ราว 10,000 ต้น จะให้ผลผลิตในช่วงฤดูหนาวราว 1,000 กิโลกรัม กล้วย มะละกอ ลิ้นจี่ มัลเบอรี่ เสาวรส มะม่วง ฟักข้าว และมีฟาร์มไก่ไข่ราว 50 ตัว ที่ออกไข่เกือบทุกวัน

นอกจากนี้ แผนในปี 2565 ยังเตรียมพัฒนาพื้นที่ปลูกกาแฟอราบิก้าออร์แกนิกราว 500 ต้น และแตงโมออร์กานิก

บุญหลายบอกว่า อัคระคีรี ออร์แกนิกฟาร์ม อยู่ในโครงการโคก หนอง นา โมเดลด้วยการจัดการพื้นที่ทางการเกษตรเป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ผลิตเพื่อเลี้ยงตัวเองได้

และสามารถนำผลผลิตขายเป็นรายได้ ที่นี่นอกจากเป็นที่พัก ยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรออร์แกนิก มาเที่ยว มาพักผ่อน มาเรียนรู้วิถีเกษตรแบบพอเพียงและยั่งยืน

โดยขณะนี้เตรียมแผนทำแพ็กเกจท่องเที่ยว 2 คืน 3 วัน Route โคก หนอง นา เชื่อมแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า

“ลูกค้าตื่นเช้ามา เดินไปเก็บผัก เก็บสตรอว์เบอรี่ เก็บผลไม้ เก็บไข่ไก่ ดูฝูงควายกินหญ้า หรือจะเกี่ยวข้าวในแปลงนาก็ทำได้ ใช้ชีวิตช้า ๆ แบบสโลว์ไลฟ์”

การปรับตัวของ “อัคระคีรี ออร์แกนิกฟาร์ม” ด้วยการพลิกผืนดิน 80 ไร่ ปั้นบ้านดิน ทำออร์แกนิกฟาร์ม เป็นโอกาส และเป็นจุดขายใหม่ ที่จะช่วยฝ่าวิกฤตไปให้ได้