กปภ.แถลงผลงานปี’64 ผนึกกำลัง มท.2 นำประปาไทยสู่ความยั่งยืน

กปภ.แถลงผลงานปี’64 พร้อมผนึกกำลัง มท.2 นำประปาไทยสู่ความยั่งยืน

วันที่ 21 ธันวาคม 2564 นายสมบูรณ์ สุนันทพงศ์ศักดิ์ ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า ขอบคุณรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ได้ให้ความสำคัญกับการประปาส่วนภูมิภาคเสมอมา และการประปาตั้งใจจะบริหารองกรให้ “ก้าวไปข้างหน้า พัฒนาการประปาไทย ให้กว้างไกล และยั่งยืน” โดยใช้ F : Management by Fact (ใช้ข้อมูลจริงในการบริหารงาน) 0 : 0rganization Excellence (จัดการองค์กรสู่ความเป็นเลิศ) R : Risk & Resilience Awareness (ตระหนักพร้อมรับความเสี่ยง และยืดหยุ่นปรับตัวเข้ากับสถานการณ์)

W : Water Integrity Governance (ชื่อสัตย์ โปร่งใส และเนั้นความเท่าเทียมในการบริหารจัดการน้ำ) A : Openness & Action Orientation (เปิดรับความเห็นและเน้นลงมือทำ) R : Delivering Value & Results (ส่งมอบคุณค่าและผลลัพธ์ของงาน) D : People Development (พัฒนาบุคลากร) S : Focus on Success, Service & Sustainability (มุ่งเน้นการให้บริการ ความสำเร็จและความยั่งยืน)

“ประส่วนภูมิภาคมีทั้งหมด 234 สาขา เราตั้งใจที่จะยกระดับการบริการให้เป็นสาขาที่ 235 แม้ในปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะภาคธุรกิจโรงแรม ซึ่งเราได้ตอบสนองนโยบายของรัฐและมหาดไทย ให้ส่วนลด 10% ในการติดตั้งประปาใหม่ให้เป็นของขวัญปีใหม่กับประชาชน เรามุ่งมั่นตั้งใจอย่างยิ่ง อยากให้บริการที่ดีด้วยคุณภาพน้ำที่มีคุณภาพ”

นายสมบูรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ.ภายใต้การบริหารของตน ตั้งใจและมุ่งมั่นพัฒนาประปาไทย ด้วยนโยบาย FORWARDS : ขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า โดย กปภ.ได้นำแนวทางการจัดการองค์กรสาธารณูปโภคด้านน้ำให้มีประสิทธิผล (Effective Utility Management : EUM) มาเป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางการบริหารจัดการองค์กร รวมทั้งนำหลักการจัดการน้ำสะอาด (Water Safety Plan : WSP) ตามกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) มาใช้ในการบริหารจัดการคุณภาพน้ำให้สะอาดปลอดภัยและได้มาตรฐาน

โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการติดตามและตรวจสอบการผลิตน้ำประปา และนำมาตรฐานขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (International Organization for Standardization : ISO) เข้ามาประยุกต์ใช้ใน กปภ.คือ มาตรฐาน ISO 24510 และ 24512 ซึ่งเป็นมาตรฐานน้ำดื่มทั้งในเชิงคุณภาพและความต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรฐาน ISO 24528 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำสูญเสียในระบบจำหน่าย

แม้ว่าการผลิตน้ำประปาที่มีคุณภาพดีเพียงใด แต่หากยังมีน้ำสูญเสียสูงก็จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการน้ำประปา การบริหารจัดการน้ำสูญเสียจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ กปภ.ให้ความสำคัญและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เปรียบได้กับคำว่า “จับปลาใหญ่” คือ จัดการควบคุมและแก้ไขสิ่งที่ทำให้ กปภ.สูญเสียรายได้จำนวนมาก โดยมุ่งเน้นพื้นที่หรือ กปภ.สาขาที่มีปริมาณน้ำสูญเสียสูงซึ่งในปี 2564 การจัดการน้ำสูญเสียเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น กปภ.มีปริมาณน้ำสูญเสียอยู่ที่จำนวน 630 ล้าน ลบ.ม. ลดลงจากปี 2563 คือ 607 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ กปภ.สามารถรักษาทรัพยากรน้ำและลดต้นทุนการดำเนินงานไปได้กว่า 4 ล้าน ลบ.ม.

นอกจากนี้ กปภ.ยังพัฒนาการบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด ปัจจุบันมี กปภ.สาขาที่ได้รับการรับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกหรือ GECC รวมทั้งสิ้น 208 สาขา โดยในปี 2565 ตั้งเป้าหมายให้ กปภ.ทุกสาขาได้รับการรับรองมาตรฐาน GECC ควบคู่กับการพัฒนาบริการผ่านช่องทางดิจิทัลบนสมาร์ทโฟนซึ่งเปรียบเสมือน กปภ.สาขาที่ 235 ให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิทัล ก้าวต่อไปของ กปภ.จะมุ่งมั่นขับเคลื่อนการทำงานเพื่อยกระดับการบริหารจัดการน้ำประปาของ กปภ.ไปสู่องค์กรประปามืออาชีพที่ได้มาตรฐานสากล โดยมีเป้าหมายคือ ประชาชนไทยมีน้ำประปาสะอาดใช้อย่างเพียงพอและทั่วถึง

ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เปิดเผยว่า ในภาพรวมปี 2564 ที่ผ่านมา กปภ.ได้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID – 19 ด้วยการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานให้แก่ประชาชน ได้แก่ 1) การลดค่น้ำประปา 10% ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนจากผลกระทบโควิด-19 ได้มากถึง 4.65 ล้านรายทั่วประเทศ วงเงินกว่า 850 ล้านบาท 2) การลดค่าครองชีพช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563-กันยายน 2564 ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนผ่านมาตรการนี้ไปแล้วกว่า 83 ล้านบาท 3) การติดตั้งมิเตอร์ ประปาให้กับโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอย จำนวน 621 เครื่อง พร้อมปริมาณน้ำจ่ายฟรีกว่า 430 ลูกบาศก์เมตร

4) สนับสนุนงบประมาณ 4.15 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องให้อากาศผสมออกชิเจนอัตราการไหลสูงกว่า 20 เครื่องให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ และเครื่องฟอกอากาศและฆ่าเชื้อโรค จำนวน 6 เครื่อง แก่ โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร นอกจากนี้ กปภ.ยังก้าวต่อไปด้วยการเร่งขยายพื้นที่การให้บริการน้ำประปา เช่น การลงทุนของ กปภ.ในพื้นที่เศรษฐกิจและเมืองสำคัญ รองรับการเติบโตของชุมชนเศรษฐกิจในอนาคต เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขับเคลื่อนโครงการในปี 2564 และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันจำนวนกว่า 62 โครงการทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ ตลอดจนแผนการลงทุนในอนาคตที่จะยกระดับประปาไทยให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2565 ที่ใกล้จะถึงนี้ กระทรวงมหาดไทย และ กปภ.ขอมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ใช้บริการน้ำประปาของ กปภ.ทั่วประเทศ ภายใต้หัวข้อ “130 ปี มหาดไทย ส่งสุข คลายทุกข์ให้ประชาชนรับปีใหม่ 2565” ผ่านโครงการ “ติดมิเตอร์ใหม่ ลดราคา การประปาฯ จัดให้” ลดค่าติดตั้งประปาใหม่ 10% สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ ประเภทที่อยู่อาศัยที่ติดตั้งมาตรวัดน้ำขนาด 1/2 นิ้ว ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 28 ก.พ. 2565 คาดว่าจะลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้กว่า 5,000 ราย และส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงน้ำประปาสำหรับอุปโภคและบริโภคมากยิ่งขึ้น