S&P ทุ่มปูพรมสาขาบุกตจว. รุกขายออนไลน์-ขนเมนูเฮลตี้รับเทรนด์

“เอส แอนด์ พี” เคลื่อนทัพร้านอาหาร-ร้านเบเกอรี่ บุกต่างจังหวัด สุ่มทดลองร้านโมเดลใหม่ “เอสแอนด์พี โกโกบ็อกซ์” รับพฤติกรรมคนกรุงรีบเร่งพัฒนาเมนูใหม่ เน้นโลว์โซเดียม-โลว์ชูการ์ เกาะเทรนด์สุขภาพ เพิ่มดีกรีบุกออนไลน์เพิ่มช่องทางขาย-รับการแข่งขัน อัดแคมเปญปลุกยอดขายตอบโจทย์ลูกค้า เดินหน้าขยายในกัมพูชาอีก 3 สาขา ตั้งเป้ายอดขายโต 8-10%

ขณะนี้แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะยังชะลอตัว แต่ธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่ที่มีมูลค่าประมาณ 4.2 แสนล้านบาท ยังมีแนวโน้มการเติบโตกว่า 4-5% โดยมีผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อยกระโดดเข้ามาทำธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่ ทำให้การแข่งขันสูงทั้งในแง่ของราคา-โปรโมชั่น และจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้านอย่างต่อเนื่อง

สยายปีกบุกต่างจังหวัด

นายกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เจ้าของร้านอาหารและเบเกอรี่ “เอส แอนด์ พี” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงนโยบายและทิศทางของการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทมีแผนใช้งบฯลงทุนมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เพื่อขยายสาขาร้านเอส แอนด์ พี ออกไปต่างจังหวัดมากขึ้น จากเดิมที่มีร้านอาหารและเบเกอรี่ รวมอยู่ประมาณ 400 แห่ง โดยจะเน้นการขยายสาขาลงไปในระดับอำเภอมากขึ้น รวมทั้งการขยายสาขาไปตามโรงพยาบาล ย่านชุมชนหนาแน่น

นอกจากนี้ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใช้เวลาเร่งรีบ ต้องการความรวดเร็วในการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงได้ทดลองโมเดล “เอสแอนด์พี โกโกบ็อกซ์” พื้นที่ขนาด 20 ตารางเมตร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท) และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) จตุจักร แต่งด้วยโทนสีเขียว จัดดิสเพลย์ร้านให้โปร่งเพื่อให้เห็นสินค้าได้ชัดเจน ขายสินค้า 60-70 รายการ อาทิ แซนด์วิช เครื่องดื่ม อาหารพร้อมทานสำหรับมื้อเช้าและมื้อเที่ยง เพื่อรองรับผู้บริโภคกลุ่มคนเดินทาง หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว

นายกำธรกล่าวว่า ส่วนในแง่ของผลิตภัณฑ์ จากนี้ไปเอส แอนด์ พีจะให้ความสำคัญกับการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร-เบเกอรี่ การเพิ่มเมนูอาหารตามช่วงเทศกาลให้มีความหลากหลาย รวมถึงจะเน้นไปที่เมนูที่เป็นประโยชน์และใส่ใจต่อสุขภาพ อาทิ low sodium, low sugar, ไม่มีไขมันทรานส์ (0% transfat) เป็นการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

“เอส แอนด์ พีก็จะยังคงมีการจัดแคมเปญส่งเสริมการตลาดในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันแม่ และวันพ่อ ที่จะให้ลูกพาคุณแม่และคุณพ่อเข้ามาทานอาหารที่ร้านได้ฟรี และเตรียมรายการส่งเสริมการขายในร้านทุกวันพุธ ลด 20% และรายการบลูคัพ ดีเดย์ ซื้อ 1 แถม 1 เป็นต้น”

บุกออนไลน์เพิ่มยอดขาย

นายกำธรกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดียที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจต่อผู้บริโภครุ่นใหม่มาก โดยที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลร้านค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ผ่าน influencer ชื่อดังมากมาย ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือแบรนด์ขนาดเล็กมีโอกาสที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น อีกทั้งหน้าร้านหรือสถานีที่ตั้งร้านก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับร้านค้าในการเข้าถึงของผู้บริโภคอีกต่อไป เปิดโอกาสให้กับธุรกิจอาหารและเบเกอรี่ขนาดเล็กที่จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ผ่านรูปแบบการให้บริการฟู้ดดีลิเวอรี่หลาย ๆ ราย อาทิ Grab Food, Foodpanda, Lineman, Now

เอส แอนด์ พีจึงให้ความสำคัญในการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาพัฒนาระบบงานเพื่อตอบสนองต่อการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น มีการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียชื่อดังต่าง ๆ มีความร่วมมือกับผู้ให้บริการฟู้ดดีลิเวอรี่หลายราย มีการจัดกิจกรรมออนไลน์ให้ผู้ใช้เข้ามามีส่วนร่วมและติดตามข่าวสารของบริษัทได้ นอกจากช่องทางการสั่งอาหารจากเดิมที่เน้นทางโทรศัพท์โดยใช้หมายเลข 1344 เอส แอนด์ พีได้ปรับปรุงให้บริการช่องทางการสั่งอาหารทางออนไลน์ ทั้งทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือขึ้นมาใหม่ โดยมีฟังก์ชั่นใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้สามารถเลือกที่อยู่ในการจัดส่งโดยใช้ Google Maps, การติดตามสถานะของการออร์เดอร์, การชำระเงินออนไลน์ผ่าน payment gateway

“การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ประสบการณ์ในการสั่งอาหารออนไลน์ของลูกค้าเอส แอนด์ พีสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายผ่านช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนมือถือเพิ่มมากขึ้น”

ขยายสาขาบุกเออีซี

นายกำธรกล่าวด้วยว่า ส่วนในต่างประเทศที่ปัจจุบันมีร้านอาหารรวม 17 สาขา ใน 5 ประเทศประกอบด้วย ภัทรา ร้านอาหารไทย เปิดที่อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และจีน รวม 9 สาขา ส่วนร้านสุดา เปิดในอังกฤษ 1 สาขา ส่วนวานิลลา เปิดที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน 3 สาขา และมีร้านเอส แอนด์ พีในกัมพูชา 5 สาขา สำหรับปีนี้จะใช้เอส แอนด์ พีเป็นแบรนด์หลักในการขยายตลาดไปในประเทศเออีซี เปิดโอกาสทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์และร่วมทุน โดยจะเปิดเพิ่มในกัมพูชาอีก 3 สาขา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปี 2561 เอส แอนด์ พีมีรายได้รวม 7,608 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท โดยรายได้หลักประมาณ 80% มาจากร้านอาหารและเบเกอรี่ภายในประเทศ อีก 10% มาจากการขายส่งอาหารและเบเกอรี่สำเร็จรูป ส่วนที่เหลือประมาณ 8-10% มาจากร้านอาหารในต่างประเทศ ส่วนในปี 2562 ตั้งเป้ารายได้โต 8-10%