“โคคา” สปีดสาขา “แม็งโก้ทรี” รุกหนักพร้อมทาน-จานด่วน

“โคคากรุ๊ป” จัดทัพรับตลาดร้านอาหารแข่งเดือด ชู “แม็งโก้ทรี” หัวหอกหลักบุกตลาดไทย-เทศ แตกโมเดลร้านถี่ยิบเจาะลูกค้ารายเซ็กเมนต์ รุกหนักจานด่วน-พร้อมทาน ปูพรมทำเลรถไฟฟ้า-สนามบิน ก่อนเร่งขยายสาขาให้ครบ 100 แห่งใน 6 ปี

นายเทรเวอร์ แม็กเคนซี กรรมการผู้จัดการแม็งโก้ทรี เวิลด์ไวด์ บริษัท โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของร้านอาหารแบรนด์โคคาสุกี้ โคคากริลล์ แม็งโก้ทรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดร้านอาหารจานด่วนมีแนวโน้มเติบโตขึ้น เนื่องจากคนรุ่นใหม่ยังนิยมออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน และต้องการความสะดวกรวดเร็ว ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านของการนำเสนอความหลากหลายของเมนูอาหาร สตอรี่ความเป็นมาของร้านเพื่อสร้างความสนใจ ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริหาร และจะเห็นได้ว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ร้านอาหารจากต่างประเทศ

เพื่อรับกับโอกาสและการแข่งขันที่เกิดขึ้น บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ “แม็งโก้ทรี” เป็นร้านอาหารไทยแนวไลฟ์สไตล์ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายมากขึ้น ผ่านรูปแบบร้านทั้งหมด 5 โมเดล ได้แก่ แม็งโก้ทรีเรสเตอรองต์ เป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบ, แม็งโก้ทรีบิสโทร ร้านอาหารไทยสไตล์แฮงเอาต์, แม็งโก้ทรีคาเฟ่ ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า, แม็งโก้ทรีคิตเช่น ร้านอาหารจานด่วน และแม็งโก้ทรีแกร็บแอนด์โก เป็นโมเดลใหม่เน้นจำหน่ายอาหารพร้อมทาน

ซึ่งแต่ละโมเดลของร้านจะมีระดับราคาและรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างกันไป เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมหลากหลายเซ็กเมนต์ จากเดิมที่แม็งโก้ทรีจะมีเพียงสาขาในรูปแบบแม็งโก้ทรีเรสเตอรองต์ ที่ให้บริการอาหารเต็มรูปแบบ เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์เป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมุ่งสื่อสารในช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับเมนูอาหาร ผ่านโซเชียลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และเว็บไซต์ เพื่อสร้างการรับรู้ไปถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมพร้อมกับการให้น้ำหนักกับการขยายสาขาของแม็งโก้ทรีคิตเช่น และแม็งโก้ทรีแกร็บแอนด์โก ซึ่งจะเป็นหัวหอกในการบุกตลาดทั้งไทยและต่างประเทศต่อจากนี้ เนื่องจากเป็นโมเดลที่ใช้พื้นที่น้อย การลงทุนไม่สูงมาก มีระดับราคาเข้าถึงผู้บริโภค โดยจะเน้นเปิดในพื้นที่ที่มีทราฟฟิกจำนวนมาก เช่น สนามบินและสถานีรถไฟฟ้า

สำหรับตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทได้เข้าไปทำตลาดแล้ว 14 ประเทศ อาทิ ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน อินเดีย อังกฤษ ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ซึ่งการขยายสาขาในต่างประเทศของแม็งโก้ทรี เป็นรูปแบบการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่น เน้นคอนเซ็ปต์การตกแต่งร้านแบบทันสมัย และมีเมนูที่หลากหลาย ซึ่งจะแตกต่างจากร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ที่เน้นตกแต่งสไตล์ไทยโบราณ

นายเทรเวอร์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันแม็งโก้ทรีมีทั้งหมดรวม 50 สาขา ที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยและต่างชาติ จากนี้ไปคาดว่าแม็งโก้ทรีจะสามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น พร้อมกับการขยายสาขาให้ครบ 100 สาขาภายในปี 2568

ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของบริษัทที่มาจากแบรนด์แม็งโก้ทรีประมาณ 75% โคคาสุกี้ และแบรนด์อื่น ๆ ในเครือ 25% โดยในอนาคตมองว่าจะบาลานซ์สัดส่วนรายได้ของโคคากรุ๊ป ให้มาจากแม็งโก้ทรีและโคคาสุกี้อย่างละ 50%