คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์
เป็นการถอยเพื่อก้าวอีกครั้งของก้าวไกล
เมื่อ “ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจงใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชนได้
เพื่อเปิดทางให้หัวหน้าพรรคนั่งผู้นำฝ่ายค้านในสภา ด้วยเหตุผลจากศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.
พิธาจึงยังไม่สามารถเข้าไปทำงานในสภาได้ และไม่สามารถจะดำรงตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” ได้ตามกฎกติกา
ซึ่งบทบาท “ผู้นำฝ่ายค้าน” สำคัญยิ่งต่อระบบรัฐสภา เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ในการกำหนดทิศทาง สร้างทีมตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล พร้อมผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงบางเรื่องให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
จากสูงสุดสู่สามัญของอดีตหัวหน้าพรรคที่เคยได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดทั่วประเทศเป็นอันดับ 1
จากที่เคยมีประชาชนรายล้อม กลับกลายสู่การเป็นคนโดดเดี่ยว นับจากนี้จะเป็นบทพิสูจน์หัวใจสิงห์ ทั้งคนและพรรค
เพราะเข้าสู่โหมดแห่งความเป็นจริง แม้จะเจ็บปวด ร้าวราน เหมือนเด็กโดนรังแก
แต่ต้องเดินหน้า บริหารประเทศภายใต้ซีกของฝ่ายค้าน
เชื่อว่าวิกฤตจะเป็นโอกาส ภายใต้การต่อสู้ด้วยปัญญาและวุฒิภาวะ
จากหนุ่มน้อยฝ่ายค้านมาถึงหนุ่มใหญ่ฝ่ายรัฐบาล
“เศรษฐา ทวีสิน” ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กำลังโหมงานหนักไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เดินสายตลอด นับตั้งแต่รับตำแหน่ง ทั้งล่องใต้ ขึ้นเหนือ เตรียมปิดเกมรายจังหวัดตามที่ตั้งใจไว้ คือที่เชียงราย-เชียงใหม่ ที่มั่นของพรรคเพื่อไทย
ก่อนจะบินไปต่างประเทศบุกตลาดเรื่องการลงทุนครั้งใหญ่ที่ท่านคาดหวังมานาน ตั้งแต่สมัยนั่งเป็นซีอีโอที่แสนสิริ
มาถึงวันนี้ฝันเป็นจริงแล้วสำหรับ ฯพณฯ ที่จะโรดโชว์ศักยภาพของประเทศไทยให้ทั่วโลกรับรู้
“เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญที่สุด ซึ่งผมเดินทางไป UNGA ที่สหรัฐ วันที่ 18-22 กันยายนนี้ จะไปพบกับนักลงทุนที่กำลังสนใจประเทศไทย มีหลายบริษัทใหญ่ ๆ อยากลงทุน เพราะถ้ามีการลงทุนก็จะมีการยกระดับของอุตสาหกรรมไทย”
บุคคลที่ท่านนายกฯ เศรษฐาจะเข้าพบนั้น ไม่เบอร์หนึ่งก็เบอร์สองของบริษัทธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลก ทั้งกูเกิล ไมโครซอฟท์ และเทสลา
ซึ่งมีเมกะโปรเจ็กต์ในไทยเป็นจุดขายและรออยู่
โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เป็นแม็กเนต โดยมีเมืองการบินอู่ตะเภาเป็นจุดขนถ่ายขนส่งทางอากาศ
การเปิดน่านฟ้าในถิ่นทหารเรือแบบเบ็ดเสร็จและครบวงจร จะเป็นการสร้างงาน สร้างคน สร้างรายได้ให้กับประชาชนนอกเขตเมืองหลวง หรือประชาชนชายขอบตามที่ท่านนายกฯ คาดหวังไว้
รวมถึงการลงทุนสร้างสนามบินแห่งใหม่ชื่อใหม่ “ล้านนา” ที่จะเป็นขุมทรัพย์คู่แฝดกับท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในย่านสันกำแพง
ดูจะเป็นโปรเจ็กต์ไม่ไกลเกินฝัน ที่ท่านเศรษฐาอยากทำให้สำเร็จ เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เปรี้ยงปร้างโครมคราม
รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ประตูการลงทุนบานใหญ่สู่ภาคใต้ โดยมีพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลคอยเชียร์ ที่สำคัญ ข่าวว่าลุงตู่ก็สนับสนุนโปรเจ็กต์นี้
เพราะเป็นการเปิดหน้าดิน สร้างอาณาจักรใหม่ของนักลงทุนไทยเบอร์ต้น ๆ และต่างชาติ ซึ่งจะมีสิทธิพิเศษต่างจากการลงทุนทั่วไป
ผลที่ได้ก็คือ การสร้างงาน สร้างคน สร้างรายได้ ให้คนชายขอบอีกเช่นกัน
ทั้งหมดคือแผนระยะยาวที่ท่านนายกฯ ปรารถนาจะปักหมุด ลงเข็ม ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม
แม้จะเป็นพิมพ์เขียวเงาจาง ๆ แต่เชื่อว่า เมื่อการเมืองพลิก เกมเปลี่ยน อำนาจอยู่ในมือแล้ว อะไรก็คงไม่ยาก
แต่ที่จะยากหน่อยก็คงเป็นแผนระยะสั้นกับเงินแจกหมื่นบาทที่ต้องหาที่ลงให้ได้
- เศรษฐาสั่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด ช่วยสภาพคล่อง เริ่ม 1 ม.ค. 67
- แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด รัฐบาลถอย เปิดเป็นทางเลือก รับแบบเดิมได้
- เศรษฐา ประกาศแผนขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ไม่ท้อ ขอติอย่างสร้างสรรค์
- เปิดเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ “พิธา” ลาออกไม่พอ หากก้าวไกลจะมีผู้นำฝ่ายค้าน
- พิธาประกาศลาออกหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุยทำงานเบื้องหลัง