นักท่องเที่ยวจีนถึงไทย ไฟลต์แรก 12 ม.ค.นี้ ไทยตั้งศูนย์ปฏิบัติการ

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

อนุทินนั่งหัวโต๊ะ ถก 4 กระทรวง-กทม. รับนักท่องเที่ยวจีนไฟลต์แรก 12 ม.ค. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมรับนักท่องเที่ยวจีน จับโรงแรมทำข้อตกลงจัดสถานที่ตรวจ RT-PCR บังคับทำประกันสุขภาพประเทศต้นทางที่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนกลับประเทศ

วันที่ 5 มกราคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐนตรีและ รมว.สาธารณสุข แถลงภายหลังเป็นประธานในการประชุมกำหนดมาตรการรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

นายอุนทินกล่าวว่า วันนี้เป็นการหารือของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการรับผู้เดินทางจากต่างประเทศสำหรับปี 2566 รวมถึงการเตรียมความพร้อมกรณีที่ประเทศจีนทยอยเปิดประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่าทางการได้มีมาตรการรองรับที่รอบด้าน เพื่อจะให้ภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดในระยะต่อไป สามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้

พิพัฒน์ รัชกิจประการ
พิพัฒน์ รัชกิจประการ

นายอนุทินกล่าวว่า ในภาพรวมการหารือมีความมั่นใจประเทศไทยมีความพร้อมในทุกด้าน เนื่องจากการได้เตรียมการมาระยะหนึ่ง และมีมาตรการที่ครอบคลุม ทั้งการคัดกรอง ป้องกัน และดูแลรักษานักท่องเที่ยว และในครั้งนี้ก็มีการเสนอมาตรการเสริมจากหน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมโรค ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข จะนำแต่ละข้อเสนอไปกำหนดเป็นรายละเอียดต่อไป

และยืนยันในหลักดำเนินการที่จะไม่เลือกปฏิบัติต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทุกประเทศ และเป็นการระบาดในสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน จึงไม่ควรให้โควิด-19 มาเป็นประเด็นการกีดกันประเทศใดประเทศหนึ่ง

นายอนุทินกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้พิจารณาเป็นข้อมูลที่ทุกหน่วยงานมีอยู่ในปัจจุบัน หากในระยะต่อไปเกิดการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ของโรค กระทรวงสาธารณสุขในฐานผู้รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ก็พร้อมจะปรับมาตรการให้เหมาะสมต่อไป และเนื่องจากขณะนี้ไม่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ดังนั้น ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่จะต้องขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้การเปิดรับนักท่องเที่ยวในระยะต่อไปเป็นไปอย่างราบรื่น

นายอนุทินกล่าวว่า จะจัดตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรองรับและเตรียมพร้อมให้การอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้น ส่วนมาตรการต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยน เพิ่มเติม ลดหลั่นได้ตามความหมาะสมของสถานการณ์

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนค่าเหยียบแผ่นดินเป็นเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตอนนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้และยังต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการซื้อประกันสุขภาพ ประเทศใดที่กำหนดให้ทำ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศนั้นก็ต้องมีการซื้อประกันสุขภาพติดตัวไว้ ซึ่งไม่ใช่ประเทศจีนประเทศเดียว เป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน เป็นธรรมต่อทั้งสองประเทศ ทั้งประเทศรับนักท่องเที่ยวและประเทศต้นทาง ซึ่งในที่ประชุมได้นำเสนอสิ่งที่นักท่องเที่ยวปฏิบัติมา คือให้โรงแรมที่พักที่นักท่องเที่ยวมาไปทำข้อตกลงความร่วมมือในการจัดสถานที่ตรวจ RT-PCR เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว

“วันที่ 12 ม.ค.นี้จะมีไฟลต์แรกที่จะมาจากประเทศจีน ปักกิ่ง อู่ฮั่น ผมและนายศักดิ์สยามและนายพิพัฒน์จะไปตรวจความพร้อมการปฏิบัติงานและดูสถานการณ์เพื่อให้เกิดความสะดวกที่สุดกับนักท่องเที่ยวและความปลอดภัยสูงสุดของคนไทย” นายอนุทินกล่าว

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้พิจารณากำหนดหลักการและการขับเคลื่อนมาตรการควบคุมโควิด-19 ของประเทศไทยเพื่อรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ ปี 2566 ในภาพรวมตามที่คณะกรรมการด้านวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ได้ให้แนวทาง โดยจะไม่ใช้มาตรการด้านสาธารณสุขสำหรับโควิด-19 เพื่อกีดกันผู้เดินทางจากประเทศใด

โดยไทยมีมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 ตามหลักวิชาการ ซึ่งเป็น World standard protocol โดยประเทศไทยจะต้อนรับและดูแลผู้มาเยือนจากทุกประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และขณะนี้ระบบสาธารณสุขของประเทศมีความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ มีการเตรียมความพร้อมหากพบการระบาดรุนแรงขึ้น แต่จะมีการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโรคจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ การดูแลจัดการน้ำเสียจากเครื่องบิน รวมทั้งติดตามประเมินผลสถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2566 เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมตามสถานการณ์ต่อไป

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า สำหรับมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งเสนอโดยกระทรวงสาธารณสุขนั้น กรณีก่อนเข้าประเทศไทย จะต้องมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม และหากมีอาการป่วยโรคทางเดินหายใจแนะนำให้เลื่อนการเดินทางและรักษาให้หายก่อนเดินทางเข้าไทย แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพเดินทางที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ก่อนเข้าไทย เพื่อลดภาระการใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในช่วงพำนักในประเทศไทย

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ส่วนระหว่างพำนักในประเทศไทย จะมีการแนะนำให้ผู้เดินทางจากต่างประเทศป้องกันตนเอง เช่น สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในสถานที่สาธารณะ รถโดยสารขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ เน้นการตรวจคัดกรองด้วย ATK เมื่อมีอาการ ส่วนกรณีผู้เดินทางที่จะออกจากไทยไปยังประเทศที่มีนโยบายคัดกรองก่อนเข้าไทย จะมีการแนะนำให้ผู้เดินทางพักในโรงแรม SHA Plus ซึ่งจะมีบริการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า พร้อมกันนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์โรค และตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีพบการระบาดในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ มีการเพิ่มกลไกการรายงานสถานการณ์ผ่านเว็บไซต์ การควบคุมโรค ที่เน้นแจ้งจำนวนนักท่องเที่ยวและตรวจคัดกรองผู้ที่มีอาการป่วยทางเดินหายใจที่สนามบิน

โดยมีการรายงานทุกสัปดาห์ มีการกำหนดเกณฑ์สำหรับการปรับมาตรการเมื่อพบผู้ติดเชื้ออัตราสูงขึ้น หรือมีการกลายพันธุ์ และมีการเฝ้าระวัง ตรวจสายพันธ์ุเชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียจากเครื่องบิน

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้กำหนดแนวทางการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกประเทศที่มีการติดเชื้อ โดยสามารถติดต่อหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อให้ความช่วยเหลือในการประสานงานเข้ารับการรักษา อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155, ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) โทร. 0-2134-4077 สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด (สทกจ.) ทุกจังหวัด และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โทร. 1672

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ทางด้านกระทรวงคมนาคมได้รายงานถึงการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในทุกท่าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้สามารถรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศได้ เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาประมาณร้อยละ 50-60 ของปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ส่วนปัญหาความแออัดที่พบขณะนี้ เป็นเพียงเรื่องของการบริหารจัดการที่ผู้ประกอบการยังไม่สามารถเพิ่มผู้ปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับจำนวนผู้เดินทาง

โดยขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคมกำลังเร่งรัดเพิ่มศักยภาพในการให้บริการให้กลับสู่ภาวะปกติ ควบคู่กับการบริหารจัดการในช่วงเวลาเร่งด่วน และมีการเตรียมแผนระยะสั้น กลาง ยาว สำหรับการให้บริการทั้งการเดินทางผ่านอากาศยาน การให้บริการรถโดยสารสาธารณะ ณ ท่าอากาศยาน ระบบขนส่งสาธารณะในเมือง และการจัดตั้งศูนย์ประสานงานร่วม 3 กระทรวง สาธารณสุข คมนาคม การท่องเที่ยวและกีฬา

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงประเด็นการซื้อประกันสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย โดยที่ประชุมได้มีการกำหนดหลักการว่าจะไม่มีการกำหนดมาตรการแบบเลือกปฏิบัติกับประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ แต่จะกำหนดให้สอดคล้องกับมาตรการของประเทศนั้น ๆ เช่น หากประเทศใดมีการกำหนดว่าให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องตรวจ RT-PCR ก่อนกลับประเทศไทย ไทยก็อาจต้องมีการกำหนดให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศนั้นต้องซื้อประกันสุขภาพ เป็นต้น

รวมถึงกรณีการให้วัคซีนแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะสัญชาติใดหากต้องการจะรับวัคซีนในไทยก็จะมีการให้บริการ เพื่อเน้นให้เห็นถึงการเป็นเมดิคอลฮับของไทย แต่จะไม่ให้บริการฟรี ซึ่งทั้งส่วนของรายละเอียดประกันสุขภาพและการให้วัคซีนนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดรายละเอียดข้อกำหนดและประกาศให้ทราบต่อไป