รู้จัก พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เตรียมนั่งผู้ช่วย รมว.กลาโหม

พล.อ. นิพัทธ์ ทองเล็ก
ภาพจาก นิพัทธ์ ทองเล็ก แฟนเพจ : Nipat Thonglek fanpage

เปิดประวัติ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ว่าที่ผู้ช่วย รมว.กลาโหม หลังสุทินทาบ เสริมทัพรัฐบาลเพื่อไทย

วันที่ 4 กันยายน 2566 พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เชิญตนไปพูดคุยแล้ว โดยแจ้งให้ทราบว่าจะให้มาช่วยงานที่กระทรวงกลาโหม โดยให้มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

พร้อมทั้งได้มอบหมายงานในบางส่วนให้แล้ว ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล อาทิ การปรับวิธีการคัดเลือกทหารกองเกิน การปรับโครงสร้างกองทัพ การทำหน่วยทหารให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงมากขึ้นโดยหน่วยทหารใดที่มีโรงพยาบาลทหาร ก็ให้เปิดรับรักษาประชาชนเพิ่มมากขึ้น การใช้พื้นที่ของทางราชการทหารให้เป็นประโยชน์ทางด้านการเกษตรเพิ่มมากขึ้น และการทำกองทัพให้ทันสมัย เป็นต้น

ปัจจุบันนี้หน่วยทหารเราไม่ได้ไปรบกับใครแล้ว แต่ละประเทศก็ต่างทำมาหากินกัน ประเทศเพื่อนบ้าน เราก็พูดกันรู้เรื่องหมด เราเป็นเพื่อนกันหมดแล้ว ทหารเราก็มาทำให้ประชาชนได้กินอิ่ม นอนอุ่นกัน โดยตนเตรียมที่จะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้

ประวัติ

พล.อ.นิพัทธ์ เกิดวันที่ 14 ตุลาคม ปี 2498 (อายุ 67 ปี) เป็นบุตรของ พ.อ.สนอง และนางไพเราะ ทองเล็ก จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์, โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 14, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 25, หลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 65 และยังสำเร็จหลักสูตรทางการทหารจากออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสหรัฐ รวมถึงปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการ) จากมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์

การทำงาน

พล.อ.นิพัทธ์ เริ่มชีวิตราชการทหารในตำแหน่งผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ต่อมาได้ปรับย้ายเป็น ผู้บังคับกองร้อยฝึก ร.21 พัน.3รอ. ปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี เป็นสายเลือด “ทหารเสือราชินี” เช่นเดียวกัน

ในปี พ.ศ. 2546 พล.ต.นิพัทธ์ ยศในขณะนั้น เคยเป็นตัวแทนกองทัพไทยไปเจรจาลับกับแม่ทัพทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน รัฐบาลไทย โดย ผบ.สูงสุดขณะนั้นคือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้อนุมัติให้จัดทหารช่างไทย 1 กองร้อย ไปสร้างสนามบินบาแกรม (Bagram) ในสงครามอัฟกานิสถาน

ในปี 2547 ประธานาธิบดีบุช มาเยือนประเทศไทย พล.ท.นิพัทธ์ ยศขณะนั้น ได้รับเชิญให้ไปจับมือกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ที่ บก.ทบ. เป็นนายทหารที่ทำงาน (แบบไม่เปิดเผย) ให้รัฐบาลมาโดยตลอด เพราะสนิทสนมกับผู้นำต่างประเทศ อาทิ พล.อ.ฮุน มาเนต และ พล.อ.มิน อ่อง ลาย และกองทัพสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น

เคยเป็น “เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร” อย่างยาวนาน 4 ปี ก่อนโยนเข้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และปลัดกลาโหม ก่อนถูกรัฐประหารปี 2557

ชัชชาติ ยินดี พล.อ.นิพัทธ์ นั่งกลาโหม รอคำสั่งราชการ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทาบทามให้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายชัชชาติกล่าวว่า พล.อ.นิพัทธ์มีชื่อในรัฐบาลตั้งแต่หลังเลือกตั้งแล้ว จากที่ร่วมงานกันมา พล.อ.นิพัทธ์เข้าใจระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างดี ตนสนับสนุน แต่ว่าไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ตอนที่คณะของพรรคก้าวไกลมาพบที่ กทม. ตนก็ได้พูดว่า พล.อ.นิพัทธ์เป็นคนเก่ง มีความสามารถ เป็นสุภาพบุรุษ ซึ่งในอดีตเคยเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะเรื่องทหารต้องการคนมีเทคนิค ถ้า พล.อ.นิพัทธ์ไปทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง เราก็ยินดี

“ถึงแม้ว่าท่านเป็นทหาร แต่ท่านก็ทำงานเรื่องการศึกษาได้ดี ตั้งใจทำงาน ใครมาไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนเราก็บอก บางคนเอาไปผูกเรื่องว่าพรรคเพื่อไทยวางแผนไว้นานแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย เราพูดตั้งแต่วันเลือกตั้งเสร็จ”

“แต่ตอนนี้ยังไม่มีประกาศแต่งตั้ง ถ้ามีประกาศออกมาก็จะเป็นมิติที่ดีกับ กทม.ในการประสานงานกับกระทรวงกลาโหมได้ดีขึ้น หลายอย่างที่ กทม.อยากได้ เช่น พื้นที่สีเขียว ถ้าเชื่อมโยงกันได้ดี ก็ทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ตอนนี้ พล.อ.นิพัทธ์ยังไม่ได้ส่งหนังสือลาออก ยังลงไปตรวจโรงเรียน ดูเรื่องคนไร้บ้านได้อย่างดี พล.อ.นิพัทธ์เป็นคนที่ติดดินมาก ในใจตนก็อยากให้ท่านอยู่กับ กทม. แต่ถ้าเกิดไปนั่งตำแหน่งตรงนั้นแล้วเกิดประโยชน์ภาพรวมดีกว่า เราก็ยินดี ซึ่งถ้า พล.อ.นิพัทธ์ลาออกจะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาคนใหม่เข้ามาแทนที่ด้วย

ขณะที่ พล.อ.นิพัทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ขณะนี้ยังรอคำสั่งทางราชการอยู่ โดยส่วนตัวก็พร้อมไปทำหน้าที่ เพราะนายสุทินบอกตนไว้แล้วว่างานที่เหมาะสมควรจะเป็นอะไรอย่างไร และจะต้องไปทำงานอะไรบ้าง ซึ่งตนไม่ได้เลือก แต่นายสุทินเป็นคนพิจารณา

ทั้งนี้ ได้แจ้งกับผู้ว่าฯ กทม.ไว้บ้างแล้ว โดยสิ่งที่จะเสนอให้ทางกระทรวงกลาโหมมีการประสานงานกับ กทม.นั้น ก็จะนำจากสิ่งที่ได้เรียนรู้จากผู้ว่าฯ กทม. และจากการทำงานใน กทม.ไปเสนอกับนายสุทินในการส่งเสริมและกระตุ้นที่จะทำให้เป็นหน่วยงานที่เรียกว่า Smart Organization หรือ Intelligent Organization อาทิ ระบบดิจิทัล เทคโนโลยี ให้นำมาใช้มากขึ้น รวมถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เคยทำมาก็ควรจะปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เป็น Smart Organization ก็เป็นสิ่งที่ตั้งใจจะเสนอเพื่อดำเนินการ