เศรษฐาถก คนร. ตั้งประสงค์ พูนธเนศ คุมคัดคนเข้าบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

นายเศรษฐา ทวีสิน

นายกรัฐมนตรีประชุมคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ คัดสรร ตั้งหลักเกณฑ์คัดเลือกบุคคลเข้าเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 2/2566 ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า เป้าหมายของรัฐบาลคือการยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยในทุกมิติ ซึ่งรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ถือเป็นหน่วยงานและองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ทั้งในมิติการลงทุน การกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรากฐานที่เข้มแข็งของประเทศ

รวมทั้งในมิติการสร้างภาพลักษณ์ที่พร้อมสะดวกและให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ซึ่งการประชุม คนร.วันนี้จึงเป็นการวางแนวทางให้รัฐวิสาหกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน

นายเศรษฐา ทวีสิน

“รัฐวิสาหกิจมีความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล จึงควรเร่งดำเนินการคัดเลือกกรรมการรัฐวิสาหกิจไม่ให้ว่างลง และให้กระบวนการคัดเลือกมีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพตามข้อเสนอ เพื่อพิจารณาเห็นชอบแนวทาง เพื่อให้กลไกการคัดเลือกบุคคลในกรรมการรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามบทบัญญัติและเจตนารมณ์ของกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน และมอบให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่จะดำเนินภารกิจตามกฎหมาย พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางที่กฎหมายและมติ คนร.ที่กำหนดในวันนี้ด้วย” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม คนร.รับทราบผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปีบัญชี 2565 ตามระบบประเมินผล จำนวน 52 แห่ง โดยในภาพรวมรัฐวิสาหกิจมีผลการดำเนินงานและการบริหารจัดการองค์กรดีขึ้น

โดย คนร.มีข้อสังเกตให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำปัจจัยต่าง ๆ ไปพิจารณาจัดทำแผนงานและจัดลำดับความสำคัญ รวมถึงกำหนดตัวชี้วัดให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น อาทิ การพัฒนาในแนวทาง BANI World (Brittle/Anxious/Nonlinear/Incomprehensible) BCG Model การกำหนดยุทธศาสตร์ขององค์กรเพื่อมุ่งสู่การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินงาน เป็นต้น

เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รัฐวิสาหกิจสามารถเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ทั้งในมิติการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรากฐานที่เข้มแข็งของประเทศ และในมิติของการสร้างภาครัฐที่พร้อมจะสนับสนุนและให้บริการประชาชนอย่างมีคุณภาพต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม คนร.ให้ความเห็นชอบแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562 เพื่อให้มีกลไกสนับสนุนให้การคัดเลือกที่โปร่งใส และการปฏิบัติงานของกรรมการรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเป้าหมาย นโยบาย และทิศทางในการพัฒนารัฐวิสาหกิจ

โดย คนร.ได้เห็นชอบการกำหนดสมรรถนะหลัก (Skill Matrix) ของรัฐวิสาหกิจ พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการในการคัดเลือกบุคคล พร้อมทั้งพิจารณาคัดเลือกบุคคลให้สอดคล้องกับสมรรถนะหลัก (Skill Matrix) ของรัฐวิสาหกิจ เพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าวให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งพิจารณาแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯดังกล่าว มีองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจ ดังนี้ นายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธานกรรมการ โดยมีกรรมการ ประกอบด้วย นายอัชพร จารุจินดา นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ นายกุลิศ สมบัติศิริ นางปานทิพย์ ศรีพิมล นายพิชัย ชุณหวชิร นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ นายไกรสร บารมีอวยชัย

โดยผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นกรรมการและเลขานุการ และที่ปรึกษาหรือรองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจที่ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจมอบหมาย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

นายชัยกล่าวว่า สำหรับหน้าที่และอำนาจ ประกอบด้วย (1) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ และเปิดเผยหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวต่อสาธารณชน

(2) ดำเนินการคัดเลือกบุคคลจากรายชื่อที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจหรือกระทรวงเจ้าสังกัด และ สคร. แล้วแต่กรณี เพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งพิจารณาแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ

(3) แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจมอบหมาย และ (4) ดำเนินการอื่นใดตามที่ คนร.มอบหมาย

โดยที่ประชุม คนร.ได้กำชับให้รัฐวิสาหกิจที่มีผลการดำเนินงานที่ขาดทุน หรือมีผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ให้มีแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวต่อไปด้วย