อนาคตใหม่ ยัน! เวทีรับฟังพรรค รัฐบาลต้องถ่ายทอดสด มั่นใจส่งผู้สมัครครบ 350 เขต

“รองหน.พรรคอนาคตใหม่” เผย พรรคพร้อมหารือรัฐบาลถ้าเดินตามเงื่อนไข ไลฟ์สดให้ ประชาชนทราบ “พงศธร” มั่นใจส่งผู้สมัครครบทุกเขต ลั่นไม่หาเสียงแบบเก่า

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงการตอบรับเข้าหารือกับรัฐบาล ว่า ถ้าว่าด้วยกฎหมาย และบทบาทอำนาจหน้าที่การหารือดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ซึ่งในความเป็นจริงต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องไปหารือถึงการเลือกตั้ง ซึ่งการที่เชิญพรรคไปครั้งนี้ ตนคิดว่าฝ่ายรัฐบาลอาจจะเป็นการไปล้วงลูก ดูคำตอบการบ้านของแต่ละพรรคหรือเปล่า เพราะบางทีนโยบายพรรคจะเป็นไม้เด็ด และกลยุทธ์ของแต่ละพรรคที่เตรียมไว้หาเสียงในการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงคิดว่าถ้าทำแบบนี้คงไม่เหมาะสมนัก

นายชำนาญ กล่าวต่อว่า ถ้าการหารือกับพรรคการเมืองจะมีขึ้นจริง ตนก็อยากให้รัฐบาลแสดงความจริงใจ และช่วยระบุให้ชัดเจนด้วยว่าการหารือครั้งนี้มาในฐานะใด รัฐบาล หรือคสช. พร้อมทั้งต้องเป็นการหารือแบบเปิดเผย ถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับทราบด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหมกเม็ด ซึ่งหากฝ่ายผู้มีอำนาจดำเนินการตามนี้ พรรคเราก็พร้อมที่จะเข้าร่วม ตามที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคฯ เคยประกาศไว้

พล.ท.พงศธร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ จะเข้าหารือหรือไม่ ต้องไปถามนายธนาธร และความคิดเห็นร่วมของพรรค ว่าจะตกลงเข้าร่วมหารือกับรัฐบาลหรือไม่ ตนตอบไม่ได้ในส่วนนี้ แต่ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าการหารือดังกล่าวมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ซึ่งการเข้าไปหารือกับรัฐบาลนั้นจะกลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้เผด็จการ เพราะถ้าเราไปหารือสมมติว่าไปกัน10 คน พอหารือเสร็จ จะตั้งโต๊ะแถลงข่าว จะมีคนพูดเพียงคนเดียว คือฝ่ายรัฐบาล ขณะที่ตัวแทนพรรคที่เหลือไม่ได้พูด ดังนั้นคิดว่าไม่จำเป็น และเสียเวลามาก พวกคุณอยากจะทำอะไรก็ทำไป ในเมื่อมีอำนาจ ก็ทำไปเลย อย่างไรก็ตามความต้องการจริงๆของพรรคคือ รอคอยการเลือกตั้ง และอยากให้ปลดล็อคพรรคการเมืองเพื่อที่จะทำให้การดำเนินกิจกรรมอะไรต่างทันตามกำหนด

พล.ท.พงศธร กล่าวต่อว่า ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาฐานเสียงในต่างจังหวัดของพรรคอนาคตใหม่นั้น ตนคิดว่าในบริบทปัจจุบันการทำการเมืองไม่จำเป็นที่จะต้องลงพื้นที่แบบเก่าด้วยการไปเคาะประตูบ้านประชาชนทุกคนหรอก เพราะคนไทยทุกวันนี้ ทั้งคนกรุงเทพ และต่างจังหวัด ล้วนมีโทรศัพท์มือถือ มีเทคโนโลยี และใช้อินเตอร์ที่สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันหมดแล้ว ทั้งนี้การหาเสียงของพรรคเราก็จะลงพื้นที่บ้าง ไม่ใช่ไม่ลงเลย โดยหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค และเลขาฯพรรค อาจจะลงพื้นที่ตามจัวหวัดหัวเมืองใหญ่ๆบ้าง เพื่อไปพบปะพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันก็จะให้ตัวแทน และสาขาพรรคต่างๆของเราเอานโยบายพรรคไปหารือกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ แล้วให้พวกเขาเสนอความต้องการขึ้นมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะเป็นลักษณะแบบล่างขึ้นบน ไม่ใช่แบบบนลงล่าง จากนั้นทางพรรคก็จะนำมารับฟัง พร้อมประมวลให้เข้ากับนโยบายพรรค เพื่อนำไปสู่แนวทางแก้ไขต่อไป อย่างไรก็ตามการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเรามั่นใจว่าจะส่งครบ350 เขต

ที่มา:มติชนออนไลน์