“สมชัย” ประเมินเลือกตั้งช้า-เร็ว ขึ้นอยู่กับการพิจารณา กม.ลูกของ สนช.

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งหลังนายกรัฐมนตรีประกาศเลือกตั้งพฤศจิกายนปี 2561 ว่าการเลือกตั้งอาจจะเร็วหรือช้ากว่าที่คิด ซึ่งต้องดูการพิจารณากฎหมายลูกที่เหลืออยู่ หากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. ภายใน 60 วัน และไม่มีองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องยื่นคัดค้านว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องมีการตั้งกรรมาธิการร่วม รวมขั้นตอนทางธุรการต่างๆ ก่อนนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ จะใช้เวลา 3 เดือน หลังจาก ‪1 ธันวาคม 2560‬ คือสามารถทูลเกล้าฯได้ ประมาณ ‪1 มีนาคม 2561‬ จากนั้นในขั้นการลงพระปรมาภิไธย ถือเป็นพระราชอำนาจ ซึ่งมีกรอบระยะเวลา 90 วัน หากประมาณการโดยเฉลี่ยของการลงพระปรมาภิไธยในอดีต ประมาณ 1 เดือนครึ่ง ก็อาจเป็นไปได้ว่าอาจสามารถประกาศในราชกิจจาฯระหว่าง 15 ถึง ‪30 เมษายน 2561‬

นายสมชัยกล่าวต่อว่า ต่อจากนั้น จะเริ่มต้นนับ 150 วัน เพื่อต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ โดย กกต.ต้องเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการไม่ถูกร้องคัดค้านภายหลังว่าจัดการเลือกตั้งขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งในเวลาที่ดำเนินการ 150 วัน ควรกำหนดวันเลือกตั้งให้อยู่ในช่วงประมาณวันที่ 90-100 เพื่อให้สามารถประกาศผลได้ทัน‪ใน 150 วัน‬ และด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้งทั่วไป จึงอาจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่คิด คือ อาจมีขึ้นในเดือนสิงหาคม 2561

นายสมชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หากคิดลบในการผ่านกฎหมายลูกคือ 1.หากการพิจารณากฎหมายลูกล่าช้า สนช.ลงมติไม่รับหลักการ ในกฎหมาย ส.ส.หรือ ส.ว. ฉบับใดฉบับหนึ่ง 2.กรธ.ต้องนำประเด็นที่เป็นเหตุไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อนำเสนอ สนช.ใหม่ โดยเป็นการแก้ไขบางส่วน ไม่ใช่ร่างใหม่ทั้งฉบับ ในขั้นตอนนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน และ 3.สนช.มีกรอบเวลาอีก 60 วันในการพิจารณากฎหมายที่เสนอมาใหม่ และหากไม่มีการตั้งกรรมาธิการร่วม รวมขั้นตอนทางธุรการต่างๆ ก่อนนายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ จะใช้เวลา 3 เดือน หากเกิดเหตุในลักษณะนี้การเลือกตั้งทั่วไป อาจเกิดขึ้นช้ากว่าที่คิด คือต้องบวกไปอีก 5 เดือน ก็อาจเกิดการเลือกตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2562

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์